เมื่อไม่สุด แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็หยุดไม่ได้

หลังจากรอคำตอบกันพักใหญ่ ในที่สุดก็ได้คำตอบว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต จะคุมทีมชาติอังกฤษต่อไป

สมาคมฟุตบอลอังกฤษออกมา คอนเฟิร์มหนักแน่นจริงจัง ทุกอย่างผ่านการพูดคุย ทำความเข้าใจกันเรียบร้อย โดยนายใหญ่คนเดิมจะปักหลักถึงศึกยูโร 2024 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า

ดูตามไทม์ไลน์แล้ว น่าจะใช้ทัวร์นาเม้นต์เจ้ายุโรป เป็นตัวชี้วัดตัดสินว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี

ตามที่เราต่างรับรู้กัน หลังกระเด็นหลุดจากเส้นทางเวิลด์ คัพฉบับตะวันออกกลาง เซาธ์เกต อยากจะไขก็อกลาออก เพราะผลงานต่ำกว่าเป้าที่วางเอาไว้ อย่างน้อยมันต้องถึงตัดเชือก นี่จบเร็วเกินไป

แต่ทางเอฟเอโน้มน้าว เกลี้ยกล่อมสุดพลัง เข้าใจว่าสอบไม่ผ่านก็จริง แต่ภาพรวมที่ผ่านมา มันน่าจะแฟร์พอให้เขาได้ไปต่อ โดยจะได้สานงานจากแพลนที่วางเอาไว้ ไม่ต้องไปจ้างกุนซือคนใหม่ แล้วรื้อของเดิม เพื่อมาเริ่มต้นนับหนึ่ง

ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เซาธ์เกต แสดงให้เห็นแล้วว่า ทำงานอย่างมีระบบแบบแผน พัฒนานักเตะอย่างเนื่อง กล้าหาญใช้ผู้เล่นอายุน้อยๆ จนหลายคนแจ้งเกิดสำเร็จ ไม่ใช่แค่ในระดับสโมสรเท่านั้น

อีกทั้งเป็นคนมีความยืดหยุ่น ไม่ตึงจนเกินไปนัก พยายามหาจุดลงตัวเหมาะสมที่สุด แม้บางเคสเราจะมองว่าดื้อเกินไป ไม่ค่อยรับฟังเสียงรอบข้าง

แต่ความดื้อดึงมันเกิดจากความมั่นใจ กรณีการใช้งาน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็ได้รับการยืนยันว่าเขาคิดถูก ก่อนเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็ก ที่ฟอร์มเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์

เพราะเราจะเห็นว่า ผู้เล่นบางคนที่คิดว่าไม่น่าจะผ่านการคัดกรอง ก็ไม่ได้เรียกติดทีมมาด้วยอย่าง เจดอน ซานโช่ ที่ร่วมหัวจมท้ายกันมาพอสมควร จำต้องอยู่เชียร์หน้าจอทีวี เมื่อพิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสมจริง

แกเร็ธ เซาธ์เกต มีของดีแต่ใช้ไม่สุด

ส่วนความเห็นต่าง จากแฟนบอลอีกกลุ่มที่คิดว่า คงถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว เพื่อปรับวิธีการเล่นให้น่าตื่นตาตื่นใจมากกว่าที่เห็น

ในเมื่อคุณมีขุมกำลังชั้นเลิศมากมาย แต่กลับเล่นในสไตล์เพลย์เซฟ กลัวว่าจะแพ้อย่างเดียวเลย มันขาดสีสันและรสชาติเหลือเกิน ของดีมีอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่คิดเค้นประสิทธิภาพให้คุ้มค่าบ้างล่ะ

ถ้านักเตะไม่พร้อมก็ว่าไปอย่าง ฉะนั้นแล้วลองเปิดทางให้กุนซือคนอื่นบ้างเถอะ เผื่อจะได้เห็นอะไรที่ฉีกไปจากเดิม ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่

ส่วนที่บางคนเห็นแย้งว่า เซาธ์เกต พาทีมเข้ารอบรองฟุตบอลโลก 4 ครั้งก่อน ต่อด้วยชิงยูโร 2020 เมื่อกลางปีที่แล้ว น่าจะยุติธรรมพอสำหรับนั่งเก้าอี้ไปอีกสักพัก

อย่างไรก็ดีเคสนี้ มีตอบโต้กลับคืนมา ถ้าดีจริงคงได้แชมป์ไปแล้ว ไม่ใช่ป้วนเปี้ยนอยู่แค่เข้าชิงหรือตัดเชือก แถมหนหลังมาตรฐานก็ตกต่ำอีก ทีนี้ต้องย้อนกลับไปดูว่าเป้าหมายคืออะไรกัน

โปรเจคต์คือ football is coming home ต้องนำแชมป์กลับบ้านอีกครั้งไม่ใช่หรือ ทำไมไปหลงประเด็นกันหมด พอใจกับแค่การไปถึงรอบลึก ทั้งที่มันไม่น่าพอใจเลย

เล่นน่าเบื่อทั้งที่มีทรัพยากรนักเตะสนับสนุน แถมไม่มีความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน ได้แค่ฉวัดเฉวียนเฉี่ยวไปมา อย่างนี้มันน่าภาคภูมิใจตรงไหน ลองทบทวนกันดูให้ดีเถิด

ถึงบอกยังไงว่านี่คือกระแสเกิดเสียงแตกของจริง แต่เอฟเอเลือกฟังเสียงตามที่ตัวเองพอใจมากกว่า

เข้าใจไม่ยากหรอกที่ เซาธ์เกต ได้ไปต่อ เพราะเขาทำงานกับเอฟเอมานานแล้ว คุมตั้งแต่ชุดยู-21 ของทีมชาติอังกฤษ หากเรียกขานกันแบบง่ายๆคือ “เด็กของเอฟเอ” นั่นเลย

ในเมื่อคุณมีผู้จัดการทีม ที่สามารถคอนโทรลไม่ให้ ออกนอกลู่นอกทาง หรือทำอะไรเสียหายต่อภาพลักษณ์ ไหนจะทำผลงานในทัวร์นาเม้นต์ระดับเมเจอร์ไม่ขี้ริ้วขี้เหล่เกินไป มันก็ควรอยู่หรอกที่จะไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ถ้าไม่ใช่เซาธ์เกตแล้วจะเป็นใคร?

แล้วดูเหมือนว่าสเป็กของเอฟเอ จะต้องเป็นคนอังกฤษไว้ก่อน นี่คือโจทย์ที่หินเลย หากไม่มี เซาธ์เกต จะหาใครมาแทน ลองสอดส่ายสายตา แล้วได้แต่ส่ายหัว

เอ็ดดี้ ฮาว ซึ่งน่าจะเป็นอิงลิชที่ดีสุดแล้วในยุคนี้ บอกไว้ว่าต้องการทำนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดเช่นเดิม กำลังสนุกมากๆ ได้นายทุนใหญ่จากซาอุดิอาระเบียพร้อมสนับสนุนงบเต็มสูบ และยังไม่ถึงเวลาสำหรับทีมชาติ ฝึกฝีมือในระดับสโมสรรอไปก่อนยังได้

รวมทั้งเชียร์ให้ เซาธ์เกต กุมบังเหียนต่อ อย่าเพิ่งรีบร้อนลุกจากเก้าอี้เลย มันชัดเจนแล้วว่าตัวเขาไม่ต้องการขี่หลังสิงโต

ถ้าเป็นกุนซือต่างชาติ ชอยส์ร่าสนใจจะเหลือหลักๆแค่ โธมัส ทูเคิ่ล กับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ว่างงานอยู่ ไม่ต้องไปเสียเวลาเคลียร์กับต้นสังกัด เจรจากันเอง สะบัดปากกา มาทำงานได้เลย

อย่างไรก็ตามในมุมของเอฟเอ คงต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ นอกเหนือไปจากต้องใช้งบประมาณสูง ไม่น่าต่ำกว่า 7-8 ล้านปอนด์ต่อปี ผิดกับ เซาธ์เกต ไม่ได้จ่ายเยอะขนาดนั้น

ยังมีกรณีการควบคุมอีก ทั้งสองคนมีแนวทางตัวเอง ต้องการทำงานตามไลน์ที่วางไว้ คงยากหากเอฟเอตะเข้ามาคุยด้วย เพื่อหาทางออกร่วมกัน

แฟนบอลอาจจะตื่นเต้นชอบใจ แต่สำหรับเอฟเอ อาจเป็นการทำงานที่ยาก เลยขอเกลี้ยกล่อม เซาธ์เกต ดูจะดีที่สุดแล้ว

จากนี้ต่อไปอีก 2 ปีหรือจนกว่าจะจบยูโร 2024 ที่เยอรมัน มาวัดผลงานของ เซาธ์เกต กันเถอะ

หากไม่ดีจริง ก็ต้องเปลี่ยนแปลงมันไม่มีอะไรมากกว่านั้น

เพราะที่ผ่านมาเหมือนได้รับการพิสูจน์ส่วนหนึ่ง แต่รู้สึกได้ว่ามันยังไม่สุดพอ