เมสซี่ VS โรนัลโด้ ตัวอย่างของความแตกต่างแห่งยุค

แตกต่างคนละขั้ว เมสซี่ VS โรนัลโด้

“เมสซี่ VS โรนัลโด้ แตกต่างคนละขั้ว” ในขณะที่ ลิโอเนล เมสซี่ ถูกยกย่องจากแฟนบอลทั่วโลก รวมทั้งแทบทุกคนยอมรับว่านี่คือแข้งเจ๋งสุดบนหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลหรือที่เรียกกันว่า GOAT (Greatest Of All Time)

ด้วยวัย 35 ปี แต่ทำผลงานร้อนแรงจนแทบลืมอายุ เล่นดีเกือบทัวร์นาเม้นต์ ยกเว้นนัดแรกต่ำกว่ามาตรฐาน ที่เหลือฟาดแมน ออฟ เดอะ แมตช์แทบจะเกลี้ยง มันบ่งบอกอยู่แล้ว ปราศจากข้อกังขา ไม่ต้องอธิบายเยอะให้เสียเวลา

เมสซี่ และเพื่อนร่วม ทีมชาติอาร์เจนตินา เพิ่งกลับถึงบ้านเกิด ท่ามกลางแฟนบอลนับแสน ก่อนจะทวีเป็นหลักที่คาดว่าน่าจะถึง 4 ล้านคนในกรุงบูเอโนส ไอเรส ออกมาจากบ้านเพื่อต้อนรับฮีโร่ของพวกเขา

นี่คือปราฎการณ์อันยิ่งใหญ่ ชนิดที่ว่าต้องถูกจารึกไว้ในฐานะโมเมนต์สำคัญสุดของประเทศกันเลยทีเดียว

ก่อนหน้าจะมาถึงตรงนี้ เมสซี่ ต้องเจอกับเสียงก่นด่าของชาวอาร์เจนไตน์ไม่น้อย หลายคนไม่พอใจที่เห็นเล่นโดดเด่นเฉพาะรับใช้บาร์เซโลน่า แต่พอเปลี่ยนมาช่วยชาติ ฟอร์มแตกต่างกันลิบลับ

แฟนๆต่างผิดหวัง ถึงขั้นประชดว่าย้ายไปเล่นให้พวกกาตาลันจะดีกว่า ดูแล้วไม่ได้ผูกพันหรือรักประเทศนี้สักเท่าไรหรอก อยู่ที่บาร์ซ่ามาตั้งแต่เด็กๆ ไหนจะเป็นหนี้บุญคุณอีก

6 ปีก่อนตอนอาร์เจนตินาพ่ายชิลีจากการยิงจุดโทษ ชวดแชมป์โกปา อเมริกา เราได้เห็นภาพอันน่าเศร้ามากๆ เมสซี่ น้ำตาคลอเบ้า เอ่อออกมาด้วยความผิดหวังสุดขีด ทุกอย่างยังซ้ำรอยเดิม ฟ้าขาวไปไม่สุด แชมป์ระดับเมเจอร์ยังคงต้องรอกันต่อไป

ตามมาด้วยข่าวลือในทำนองว่า เขาอาจตัดสินใจหันหลังให้ทีมชาติเลย ทุ่มเทแค่ไหน ผลตอบรับกลับมาอย่าว่าแต่เป็นศูนย์เลย มันติดลบด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้จะทนต่อไปเพื่ออะไรกัน

ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นหรอก แต่บางคนยอมรับไม่ได้ นี่เองทำให้ เมสซี่ คิดรีไทร์และไปเล่นให้บาร์เซโลน่าอย่างเดียว

แต่แล้วเขากลับลำ ขอพักสักระยะ เว้นวรรคเพื่อฟื้นฟูจิตใจ กระทั่งเริ่มผ่อนคลาย จึงหวนคืนสู่ยูนิฟอร์มทีมชาติ

มันไม่ง่ายเลยสำหรับการทำใจ เพื่อมาสู้กันใหม่อีกสักตั้ง เพราะหากยังเป็นเหมือนเดิม บาดแผลเก่าที่เคยมีอยู่ อาจเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น ไม่แน่ว่าถ้าจะรักษากันจริง อาจยากสำหรับการเยียวยา

เมสซี่ ยอมเสี่ยงกลับมา ส่วนหนึ่งน่าจากกำลังใจรอบข้าง รวมทั้งเสียงทัดทานจากสหพันธ์ฟุตบอลอาร์เจนติน่า ที่เชื่อว่ายังมีโอกาสและเวลา น่าจะมีพอเหลือเพื่อกอบโกย

ในขณะเดียวกันดูเหมือนว่าเพื่อนนักเตะเองก็รู้ดี พวกเขาควรจะตอบแทน เมสซี่ อย่างไร

ดังนั้นพวกแข้งรุ่นหลังที่ติดทีมชาติมาเรื่อยๆ มักได้รับแรงจูงใจหรือคล้ายว่าถูกปลูกฝังทำเพื่อลูกพี่ใหญ่

เราเลยได้สัมผัสวันที่ เมสซี่ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ในรอบปีเศษๆด้วยการคว้า 2 แชมป์ระดับเมเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นโกปา อเมริกาหรือฟุตบอลโลกเที่ยวล่าสุด แถมผงาดแข้งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์ทั้ง 2 รายการด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง
ลิโอเนล เมสซี่ ยังมาไม่สุดทาง

โรนัลโด้ อีกฝั่งของความช้ำใจ

ช่วงเวลาที่ เมสซี่ กำลังดื่มด่ำละเลียดเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ หันมองไปที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ช่างแตกต่างกัน

นอกจากไม่ได้มีบทบาทอะไรเลยกับทีมชาติโปรตุเกสใน ฟุตบอลโลก 2022 หนำซ้ำยังถูกสื่อหลายสำนักโหวตให้ติดทีมยอดแย่หรือพวกแข้งห่วยอีกด้วย

สองวันก่อน โลธาร์ มัทเธอุส ตำนานทีมชาติเยอรมัน แสดงความเห็นไว้ว่า เพราะอีโก้จัดเกินไป จนทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

ไม่ใช่ว่าไม่เก่ง ไม่ใช่ว่าไม่ถูกยอมรับ แต่ปมคือไม่ยอมรับความจริง พยายามดิ้นรนทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองเป็นหนึ่งตลอดเวลา ชนิดที่ว่าไม่สนใจอย่างอื่นเลย

นอกจากโดนแมนฯยูไนเต็ดยกเลิกสัญญาแล้ว ยังล้มเหลวกับโปรตุเกส ตามด้วยการวิ่งพล่านหาต้นสังกัดใหม่ ซึ่งทีมใหญ่ในท็อปลีกยุโรปไม่มีใครเอา ด้วยเงื่อนไขหลายอย่าง

มีแววว่าอาจต้องย้ายไปเล่นในลีกซาอุดิอาระเบียกับอัล นาสเซอร์ สโมสรอภิมหาเศรษฐีที่ยินดีประเคนให้ปีละ 200 ล้านยูโร

ว่ากันตามตรงหากใครก็ตามที่เผชิญกับสถานการณ์ในลักษณะนี้ ทางที่ดีสุดคือนิ่งเงียบไว้ ไม่มีเหตุผลที่ต้องออกมาโวยวายหรือร้องหาความเป็นธรรม

ประเด็นคือ โรนัลโด้ เองก็ไม่ได้เอะอะมะเทิ่งเลย แต่กลายเป็นคนรอบข้างต่างหาก พยายามออกมาปลุกปั่น กวนให้มันแย่หนักกว่าเดิม

ล่าสุด คาเตีย อเวยโร่ พี่สาวขาประจำ ที่มักออกมาตอบโต้แทนน้องชายเป็นประจำ โพสต์ผ่านโซเชี่ยลมีเดียของตนว่า ฟุตบอลโลกที่กาตาร์ห่วยแตกสุดแล้ว แต่ก็ยังชื่นชมเกมนัดชิงอันน่าตื่นเต้น รวมถึงยินกับอาร์เจนตินา

รวมถึงยกย่อง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ว่าอนาคตอันสดใสยิ่งใหญ่ เปิดอ้ารออยู่แล้ว โดยที่ไม่ได้พูดถึง เมสซี่ ทั้งที่ควรกล่าวอะไรสักอย่าง

นั่นทำให้โซเชี่ยลจับผิดอีกว่า เจตนาไม่ชื่นชมดาวเตะอาร์เจนไตน์ เพราะเหมือนเป็นคู่แข่งโดยตรงกับน้องชาย ใครก็ดูออกทั้งนั้น

เวย์น รูนี่ย์ ในฐานะเพื่อนร่วมทีม ซึ่งเคยกอดคอ โรนัลโด้ ไล่ถล่มประตูมากมาย หล่นความเห็นว่า บางทีคนใกล้ตัวนี่แหล่ะ ควรจะปรามๆหรือเตือนกันบ้าง ไม่ใช่มาแนวยุยงส่งเสริมกันซะหมด

อย่างน้อยก็ควรทำให้ โรนัลโด้ รู้ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ว่ายังหลงระเริงไปกับอดีตอันหอมหวานและคำสรรเสริญเยินยอที่ดูเกินความจริง

มันน่าเห็นใจที่เขาต้องตกอยู่ในชะตากรรมเช่นนี้ กราฟชีวิตฮวบฮาบลงอย่างน่ากลัว อาจต้องถึงเวลาตัดสินใจครั้งสำคัญด้วย

แต่เหนืออื่นใด ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ฝืนอีกต่อไป ทุกอย่างจะคลี่คลายเอง

เพราะไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่สุดๆ ให้ผู้คนจดจำในมุมนี้ดีกว่า