ตอนแรกหลายต่อหลายคนคาดว่า ลิโอเนล เมสซี่ น่าจะประกาศรีไทร์จากการ รับใช้อาร์เจนตินาเลย หลังจากเขียนประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ ยุติการรอคอยอันแสนเนิ่นนานลงได้
มันจะเป็นการสไลด์ตัวลงจากหลัง ที่สง่างามมาก ถือเป็นฉากจบสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง หาสิ่งไหนมาเปรียบเทียบไม่ได้อีกแล้ว
ในขณะเดียวกัน เมสซี่ เปรยๆไว้ มันอาจเป็นฟุตบอลโลก 2022 ครั้งสุดท้ายของเขาด้วย อีก 4 ปีอายุปริ่ม 40 คงยากที่จะดูแลรักษาร่างกายให้เปรี๊ยะ สำหรับภารกิจป้องกันแชมป์
ดังนั้นน่าจะรวบงานเดียวกันไปเลย เพื่อให้เรื่องราวของเขาถูกบันทึกไว้ให้เป็นที่โจษจัน เด็กรุ่นหลังเล่าขานสืบต่อ ในฐานะบทเพลงแห่งตำนาน ยากนักที่จะมีใครสักคนเทียบได้
เพราะนี่คือผู้เล่นที่ได้แชมป์ระดับเมเจอร์มาเพียบพร้อม ไม่ว่าจะในการเล่นให้สโมสรหรือช่วยชาติออกศึก ไม่มีขาดหกตกหล่นเลย
ไม่นับรางวัลส่วนตัว กวาดมาแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า มันมากมายก่ายกองเท่าไรกัน ลำพังบังลงดอร์ ที่เหมือนตราประทับความเป็นยอดแข้งของโลก ก็คว้ามาถึง 7 สมัยเข้าไปแล้ว
ถ้าจะพูดให้เข้าใจแบบรวบรัด นี่คือนิยามความยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน สุดยอดฝีเท้าแห่งศตวรรษแท้จริง
ลิโอเนล เมสซี่ ยังไม่มีวางมือจากวงการ
แต่ดูเหมือน เมสซี่ จะภาคภูมิใจกับการได้สวมเสื้อที่มีดาว 3 ดวง ล้อมตราทีมชาติ ประกาศศักดาว่า เคยครองเจ้าลูกหนังโลกมาแล้ว 3 ครั้ง ยังไงขอสัมผัสความรู้สึกตรงนี้หน่อยเถอะ
เหตุผลดังกล่าวเลยทำให้ เมสซี่ เปิดใจหลังจบเกมว่า ยังไม่มีความคิดรีไทร์ในหัวสมองเลย ไฟคงลุกโชน แต่นั่นไม่ได้หมายรวมถึงการเล่นฟุตบอลโลกในอีก 4 ปีข้างหน้า โอกาสเหลือแค่น้อยนิด
บางคนเลยเชื่อว่า สมมุติอาร์เจนฯอกหักอีกครั้งในเกมนัดชิง อาจเป็นไปได้ที่ เมสซี่ จะหันหลังให้ทีมชาติ เพียงพอแล้วกับความสำเร็จน้อยนิด ตรงกันข้ามกับความผิดหวังทวีคูณ
อย่างที่รู้กัน เมสซี่ บอบช้ำมามาก กว่าจะทำลายมนต์คำสาป ด้วยการครองแชมป์โกปา อเมริกาเมื่อกลางปีที่แล้ว มันให้ความรู้สึกยอดเยี่ยมแบบเท่าตัว เพราะโค่นบราซิลในเกมนัดชิง โดยที่บราซิลนี่แหล่ะเป็นเจ้าภาพ
แชมป์ดังกล่าวอาจเป็นเหมือนน้ำทิพย์ชโลมจิตใจให้ เมสซี่ มีเรี่ยวแรงเดินไปข้างหน้าต่อ ไม่อย่างนั้นอาจท้อแท้เอาง่ายๆเลย ถึงเวลาสำคัญ เกมที่เต็มไปด้วยความหมายทีไร จอดป้ายอยู่เสมอ
นั่นส่งแรงมาถึงฟุตบอลโลก2022ครั้งนี้ด้วย ก่อนจะผลักดันให้ เมสซี่ ทุ่มเทสุดตัว แล้วได้รับรางวัลตอบแทนอันล้ำค่านั่นเอง
คำตอบในเรื่องทีมชาติ ยังคงต้องรอกันไปก่อน จนกว่าจะได้รับการเฉลยที่แน่ชัดอีกครั้ง
ส่วนในสโสรก็น่าติดตามชมไม่น้อยไปกว่ากันเลย เพราะอย่าลืมว่าสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์กแมงจะหมดลงในซัมเมอร์หน้าหรืออีกแค่ 6 เดือนเท่านั้นเอง
จนถึงเวลานี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรมากนัก นอกเหนือจากปฏิกิริยาทางเปแอสเช ซึ่งเริ่มชัดเจนแล้วว่า ต้องการรั้งให้อยู่กับทีมต่อไป
บทความที่เกี่ยวข้อง เดส์ชองส์ กุนซือ ทีมชาติฝรั่งเศส สมควรอยู่เกิน 10 ปี
เปเอสเชยันจะรั้งตัวเมสซี่ไว้กับทีม
นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสร พูดไว้เป็นนัยแล้วว่า เมสซี่ แฮปปี้กับสถานะปัจจุบันดี เปแอสเชเองก็พร้อมจะยื่นข้อเสนอให้ เพื่อร่วมงานกันเหมือนเดิม ยังคงเชื่อใจในศักยภาพไม่แปรเปลี่ยน
ในวัย 35 ปี ซึ่งอาจดูเยอะเกินไปหรือใกล้ปลดระวาง แต่ทางสโมสร ไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย เรียกว่าหยอดหวานซะน้ำตาลยังอาย
อีกด้านมันเป็นการตอกย้ำเลยว่า เปแอสเชจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บ เมสซี่ ให้เป็นเสาหลักในแนวรุกต่อไป
อัล-เคไลฟี่ โชว์ให้เห็นแล้วจากเคสของ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เมื่อตลาดฤดูร้อนที่เปิดตัวลงไปไม่กี่เดือนก่อน จากที่กำลังจะแถลงข่าวใหญ่โต เซ็นสัญญาไปซบเรอัล มาดริดฟรีๆ พรมแดงปูพร้อมรอต้อนรับอย่างสมฐานะซูเปอร์สตาร์เบอร์ต้นของโลก
แต่แล้วอย่างไม่มีใครคาดคิด งานเลี้ยงที่กำลังรอเจ้าของมาตัดริบบิ้นเปิดอย่างอลังการ ต้องพังครืนลงมาอย่างไม่เป็นท่า หลังเราได้เห็นภาพข่าว เอ็มบั๊ปเป้ ตัดสินใจขยายสัญญากับเปแอสเชออกไปอีก 3 ปีด้วยกัน
มันมาพร้อมกระแสข่าวสารพัด โดยเฉพาะประเคนค่าจ้างให้เป็นสถิติโลก มากกว่า 1 ล้านยูโรต่อสัปดาห์ สถาปนาเป็นแข้งที่รับค่าเหนื่อยมูลค่ามหาศาลบานตะเกียงที่สุด ไม่มีใครทาบได้
นอกจากนั้นยังบวกด้วยอภิสิทธิ์พิเศษ ในรูปแบบการเลือกตัวนักเตะ หรือผู้จัดการทีมอีกต่างหาก จนโดนแฟนบอลบ้านเราล้อเลียนว่า ให้เป็นประธานไปเลยเถอะ แล้วจึงเป็นที่มาของฉายา “ประธานเป้”
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์อะไรเลย หากว่าพวกเขาจะรักษา เมสซี่ ไว้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม
ยิ่ง เมสซี่ กำลังโชว์ผลงานได้ดี มีแชมป์โลกมาการันตี รวมถึงดีกรีแข้งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์พ่วงมาด้วย ไม่มีอะไรต้องกังขาอีกต่อไปว่า ยังไหวมากน้อยแค่ไหน
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ เมสซี่ เองทั้งสิ้น ว่าจะเลือกไปทางไหนดี จะเล่นกับเปแอสเชต่อไปหรือมีทางอื่นที่พอใจมากกว่า
ความท้าทายของเขากับเปแอสเช คือพาทีมครองยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกให้ได้ แม้จะได้มากับบาร์เซโลน่า 4 สมัยแล้ว แต่ยังไม่เคยประสบความสำเร็จในสีเสื่อสโมสรอื่น
ทว่าเขาอาจกลับบาร์ซ่าอีกครั้ง ตามโปรเจคต์ของ โจน ลาปอร์ต้า ท่านประธานใหญ่ ที่อยากรื้อฟื้นอดีตกัน แต่เงื่อนปมน่าจะอยู่ที่เรื่องของเงินว่ามีมากพอสำหรับใช้จ่ายหรือเปล่า
อีกเคสที่ต้องจับตา เห็นจะเป็นการคืนสู่บ้านเกิดเมืองนอนที่แท้จริง แล้วไปเล่นให้นีเวลล์ส โอลด บอยส์ทีมเชียร์ในวัยเยาว์ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความฝันด้วย
เมสซี่ อาจจะประสบความสำเร็จแบบสุดๆ แต่อนาคตบนถนนสายนี้ ยังเดินมาไม่สุดทาง
ไม่ว่าอย่างไรก็คงต้องตามติดกันต่อไป