กฎที่เหมือนเสือกระดาษให้เชลซีย่ำยี (ตลาดซื้อขายนักเตะ)

กฎที่เหมือนเสือกระดาษให้เชลซีย่ำยี (ตลาดซื้อขายนักเตะ) ไม่ต้องสงสัยว่าในฤดูกาลนี้ เชลซีคือสโมสรที่ใช้เงินทุ่มซื้อผู้เล่นเข้ามาเสริมมากสุดในโลก

ย้ำเลยว่า “ในโลก” ไม่ใช่แค่เฉพาะในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น เพราะรวมกันสองตลาด โดยที่ตลาดมกราคมในปัจจุบันยังไม่ทันปิดตัว ก็ปาเข้าไปเหยียบ 500 ล้านปอนด์เข้าไปแล้ว

นี่คือสิ่งที่เราพูดถึงกันบ่อยๆ ภายใต้การบริหารงานของเจ้าของชุดใหญ่ เชลซีมือเติบฟุ่มเฟือยอย่างไม่น่าเชื่อ ยุคก่อนที่สมัยมี โรมัน อบราโมวิช จะน่ากลัวแล้ว ตอนนี้บอกเลยว่ายิ่งกว่า

ที่น่าสนใจก็คือ นับตั้งแต่ได้ ท็อดด์ โบห์ลี่ มาเป็นหัวเรือใหญ่ ออกหน้าบริหารจัดการ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังสำคัญดีลทั้งหลาย การซื้อผู้เล่นของสิงโตน้ำเงินคราม มีความแตกต่างออกไป

นอกจากขนแข้งดาวรุ่งอายุน้อยเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งพอเข้าใจได้ว่าต้องการสร้างทีมแบบยั่งยืน พร้อมให้ แกรห์ม พ็อตเตอร์ มีทางเลือกอย่างเต็มที่

ระยะเวลาสัญญาที่เซ็นกัน ก็ยังนานเกินผิดวิสัยอีกด้วย อย่างเช่นปกติมักจะยาวสุดก็ราว 5-6 ปีเท่านั้น บางทีก็ 5 ปี แล้วมีอ็อปชั่นห้อยพ่วงท้ายกันเหนียวไว้อีกปี

แต่สมาชิกใหม่ของเชลซีล็อตล่าสุด มีหลายคนเลยที่มันนานมากๆ จนรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล

ไม่เชื่อลองไล่ดูกันทีละคนเลยดีกว่า จะได้เห็นฉายให้เห็นภาพแบบชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก

เวสลี่ย์ โฟฟาน่า กับ มาร์ค กูกูเรย่า 2 กองหลังค่าตัวโอเวอร์ ซึ่งย้ายมาเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ได้รับสัญญา 7 ปีกับ 6 ปี ตามลำดับ ต่อให้อายุน้อย แต่สัญญามันยืดยาวไปหน่อย

พอตลาดมกราคมเคลื่อนเข้ามา มิไคโล มูดริค ที่ปาดหน้าไปแย่งมาจากอาร์เซน่อล สะบัดปากกาเซ็นสัญญาถึง 8 ปีครึ่ง นับว่ายาวนานสุดในพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว ไม่มีอะไรแบบนี้มาก่อน

หรือที่มาไล่เลี่ยกัน เบอนัวต์ บาเดียชิล กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสกับ ดาวิด ดาโตร โฟฟาน่า ก็โดนจับอยู่ยาวถึง 6 ปีครึ่งด้วยกัน เรียกว่าปักหลักกันนานจนแทบจะลืมสัญญาเลย มันจะหมดเมื่อไรกันแน่

ความสงสัยคลายตัวลงบ้าง เมื่อมีเหตุผลแจกแจงอันน่าสนใจ ซึ่งมันก็น่าจะมาจากเรื่องดังกล่าวนั่นแหล่ะ

ช่องโหว่ใน ตลาดซื้อขายนักเตะ

การเซ็นผู้เล่นด้วยสัญญาระยะยาวในลักษณะนี้ ทำให้พวกเขาผ่อนจ่ายค่าตัวในแต่ละงวดไม่ต้องเยอะเกินไปนัก ถึงแม้จะต้องในเวลาในการจ่ายเงินนานกว่า แต่มันก็ถือว่าคุ้มกว่าการผ่อนจ่ายภายในระยะเวลา 3-5 ปี

อีกทั้งถ้าผ่อนจ่ายแบบไม่นานปีนัก มันอาจจะไปขัดกับกฎควบคุมการเงินหรือไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์ที่คอยตามราวีบรรดาทีมเงินถุงเงินถังทั้งหลายนั่นแหล่ะ

คงต้องยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันหน่อย เช่นนักเตะมีค่าตัว 70 ล้านปอนด์ เชลซีจะสามารถผ่อนจ่ายได้ปีละ 10 ล้านปอนด์ ในกรณีทำสัญญากัน 7 ปี แต่ถ้าทำสัญญาเพียง 3 ปี มันก็ต้องผ่อนจ่ายปีละราว 23.3 ล้านปอนด์

ทีนี้พอนำมาคำนวณเงินที่ใช้ไปในแต่ละปี มันก็จะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นหมายถึงจะหนีห่างกฎ FFP มากยิ่งขึ้น ไม่ต้องมีความเสี่ยงว่าจะถูกตรวจสอบหรือเจอหลักฐานว่าละเมิดจริง

เพราะหากเป็นอย่างนั้น เชลซีอาจต้องโดนปรับเงินก้อนโต แต่ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าคือห้ามยุ่งเกี่ยวกับตลาดซื้อขายนักเตะ เป็นระยะเวลากี่ตลาดก็แล้วแต่ตามที่ศาลตัดสิน

พีกสุดก็คือจะโดนห้ามไม่ให้เข้าร่วมโม่แข้งในรายการของสโมสรยุโรปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกหรือยูโรปา ลีก นั่นหมายความถึงความเสียหายนักอึ้งเลย

ความจริงแล้ว ขาใหญ่อย่างฟีฟ่าตั้งวางกำหนดเอาไว้แล้วว่าแต่ละสโมสรสามารถเสนอสัญญาให้นักเตะแต่ละคนได้สูงสุดที่ 5 ปี

บทความที่เกี่ยวข้อง
แกรห์ม พ็อตเตอร์ กับนักเตะที่เป็นพิษ

แต่มันก็มีการระบุด้วยว่าทุกทีมสามารถ ให้สัญญาที่มีระยะเวลานานกว่านั้น หากดีลเข้าเงื่อนไขมีข้อยกเว้น ซึ่งคาดว่าเชลซีจะใช้ตรงนี้มาหาผลประโยชน์เอื้อตัวเอง

เพราะข้อบังคับปลีกย่อยของแต่ละลีก ไม่ได้มีความเหมือนกันทั้งหมด ฉะนั้นหากมีการออกกฎกันใหม่ จำต้องอุดช่องโหว่นี้ เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบกันขึ้นมา

อย่างไรก็ดีหากมีการร่างกฎใหม่ และผลบังคับใช้ในฤดูกาลหน้า เชลซีก็จะไม่เจอผลกระทบหรอก เพราะที่เซ็นมาแล้วให้เข้าข่ายกฎเก่าเหมือนเคย

แน่นอนว่าหลายสโมสรไม่พอใจ การกระทำแบบหัวหมอเช่นนี้ มันเหมือนเจตนาโกงทีมอื่น แต่อย่างที่บอกเมื่อมีช่องให้จัดการได้ เคสดังกล่าวจึงเกิดขึ้น

หลายคนกำลังสงสัยเลยว่าเชลซี น่าจะโดนเพ่งเล็งเรื่อง FFP อยู่ มีเสียงร้องเรียนให้ตรวจสอบว่า ทำไมกล้าบ้าบิ่นใช้เงินอย่างบ้าคลั่งในตลาดซื้อขายขนาดนี้ เหมือนไม่หวาดหวั่นเลย

หารู้ไม่ว่าฝ่ายบริหารของเชลซี ไม่ได้เกรงกลัวเลย กฎที่มีช่องโหว่อย่างที่เห็น มันก็ไม่ต่างจากเสือกระดาษหรอก ทำอะไรได้บ้างล่ะ

ทีมอื่นจึงได้แต่มองตาปริบๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าแนวทางการบริหารของเชลซี เน้นอนาคตแบบผูกขาดยั่งยืนเลย ตอนนี้ขอตุนพวกผู้เล่นอายุน้อยฝีเท้าดีไว้ก่อน

หากพวกเขาทำได้ตามแผนจริงๆ นั่นคือกลับมาผงาดภายใน 2-3 ปี ตามโปรเจ็คต์วางเอาไว้และเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ

การกระทำในตลาดซื้อขายดังกล่าว จะต้องถูกหยิบยกมาพูดถึงกันในวงกว้างแน่นอน