แกรห์ม พ็อตเตอร์ กับนักเตะที่เป็นพิษ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านาทีนี้ แกรห์ม พ็อตเตอร์ ย่อมเป็นผู้จัดการทีมกดดันมากกว่าใครในพรีเมียร์ลีกเวลานี้

โทษฐานผลงานอันย่ำแย่ของเชลซี หลังจากพ่ายฟูแล่มในเวสต์ลอนดอน อาร์บี้ เป็นความปราชัยให้คู่แข่งบ้านใกล้เรือนเคียง ครั้งแรกในเกมลีกรอบ 17 ปีไม่พอ

มันยังเป็นการตอกย้ำว่า เชลซีทรุดหนักต่อเนื่อง แทบไม่เห็นวี่แววจะฟื้นขึ้นมาในเร็ววันเลย

จาก 10 นัดหลังสุด พ่ายพรุนไปถึง 7 นัดทุกรายการ ถามหน่อยว่าใครจะไปเชื่อ เพราะปกติแล้วสิงโตน้ำเงินครามแข็งแกร่งมากๆ ต่อให้อยู่ในช่วงตกต่ำ ก็ไม่ดำดิ่งขนาดนี้หรอก

ว่ากันตามตรงในห้วงที่ โรมัน อบราโมวิช เข้ามาครอบครองอำนาจ รวมแล้วเบ็ดเสร็จเกือบ 20 ปี เชลซีคงเส้นคงวามาก อาจมีบ้างที่เป๋ไปมา แต่ก็ใช้เวลาไม่นานฟื้นฟูมาสู้กันใหม่

หรือบางซีซั่นไม่ดีนัก แต่เว้นระยะสั้นๆ ก็จะกลับมาผงาดอีก แทบไม่มีประเภทริบหรี่ไม่มีแสงแห่งความหวังเลย

แต่เชลซีนาทีนี้แตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีคาแรคเตอร์เดิมๆเลย ทั้งที่ผู้เล่นก็เข้าขั้นระดับคุณภาพหลายคน ไหนจะลงทุนไปอย่างมากกับตลาดซื้อขายผู้เล่น

2 ตลาดรวมกันใกล้แตะ 400 ล้านปอนด์ แต่แทบไม่เห็นความคุ้มค่าเลย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ในฐานะผู้จัดการทีม พ็อตเตอร์ ต้องถูกมองมาก่อนใครอยู่แล้ว เล่นห่วยเมื่อไร ก็ต้องรับผิดชอบเมื่อนั้น มันเป็นวิถีของฟุตบอลอาชีพ

กุนซือหนุ่มใหญ่ถูกโฟกัสมาสักพักแล้ว บรรดาแฟนบอลเชลซีไม่ค่อยมั่นใจนักว่า จะสามารถนำนาวาฝ่า คลื่นลมไปสู่ความสำเร็จได้ เพราะไม่เคยผ่านประสบการณ์คุมทีมใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยความคาดหวังสูงลิบมาก่อน

แม้จะเคยนำไบรท์ตันผงาดขึ้นมาอย่างน่าประทับใจ แต่มันมีความแตกต่างกันพอสมควร ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการขึ้นลิฟท์แบบพรวดพราดทีเดียว

ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดนักหรอก ที่จะมีเสียงจากแฟนบอลพยายามเรียกร้องให้ดึง โธมัส ทูเคิ่ล กลับมานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมเหมือนเคย ดูมีความหวังกว่ามาก

แต่ในความเป็นจริงคงเกิดขึ้นยาก ท็อดด์ โบห์ลี่ หนึ่งในเจ้าของสโมสร ซึ่งเป็นคนเชือด ทูเคิ้ล พ้นตำแหน่ง เพราะขัดแย้งกันทางความคิด คงไม่บ้าจี้ไปง้อกลับมาหรอก

กำลังใจจากแฟนบอลทำให้ แกรห์ม พ็อตเตอร์ มีแรงฮึดสู้

กระนั้นก็มีกองเชียร์บางส่วน พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มองให้ลึกลงอีก ไม่ใช่จิ้มกุนซือว่าต้องเป็นแพะรับบาปเสมอไป ยามที่ผลงานทีมห่วยแตก

หลังจบเกมแพ้ฟูแล่มเมื่อวันพฤหัสบดีไม่กี่ชั่วโมง พ็อตเตอร์ เดินมาขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเพื่อกลับที่พัก ปรากฏว่ามีแฟนบอลรายหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า ยังคงให้เชื่อในตัวเขาและสนับสนุนเหมือนเดิม

แต่ถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนทีมแล้ว เพราะนักเตะบางคนไม่เหมาะจะใช้งานต่อไปไม่อย่างนั้นปัญหามาแน่

พอคลิปนี้ถูกสื่อนำไปแพร่ให้ขยายมากยิ่งขึ้น แฟนบอลไม่น้อยเลยที่เห็นดีเห็นงามด้วย แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

บางคนบอกว่าน้ำตาแทบไหล มีคนเข้าใจด้วยว่า แท้จริงแล้วปัญหาคืออะไร ไม่ใช่มองแค่เปลือกๆแล้วไปตัดสินว่า พ็อตเตอร์ ต้องโดนปลด

แน่นอนผู้จัดการทีมมีส่วนรับผิดด้วย แต่นักเตะเองก็ไม่ไหวเช่นเดียวกัน ชัดเจนเลยว่ามีบางรายสมควรต้องโดนดร็อปยาวๆ เพื่อเป็นการลงดาบให้รู้ดี หากยังไม่ตั้งใจเล่น ก็ต้องยอมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้น

แฟนบอลไม่น้อยเชื่อว่า คาลิดู คูลิบาลี่ เซ็นเตอร์แบ็กค่าตัวเกือบ 40 ล้านปอนด์ เล่นต่ำกว่ามาตรฐาน เหมือนไม่มุ่งมั่นตั้งใจเท่าที่ควร ประตูที่สองนั้นมันเห็นกันเลยว่า เขายืนประกบ คาร์ลอส วินิซิอุส ห่างมาก ทั้งที่น่าจะอ่านออกแล้วว่า ลูกนี้ต้องครอสเข้ามาโจมตี

ในขณะเดียวกัน เทรเวอร์ ชาโลบาห์ ก็อ่านเกมได้แย่มาก แถมพลาดแบบไม่น่า จนเกือบจะเสียประตู

หลังเกมจบลงมีเพียง เมสัน เมาท์ คนเดียว ที่เดินไปขอบคุณแฟนบอลที่เข้ามาให้กำลังใจ ส่วนคนอื่นเดินคอตกเข้าห้องพัก ไม่ได้แคร์ความรู้สึกกันเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง
ศิลปะการปกครองในแบบ แมนฯยูไนเต็ด เทนฮาก

หนำซ้ำยังมีคนเห็น ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมย็อง ซึ่งไม่ได้ถูกเปลี่ยนลงในเกมดังกล่าว ไปหัวเราะชอบใจกับผู้เล่นฟูแล่มอีก ทั้งที่ควรจะสำนึกในความพ่ายแพ้

ในช่วงเวลาที่ทีมต้องการกองหน้ามา ฝากความหวังเรื่องการทำประตู แต่หน้าเป้าที่มีอยู่คนเดียวในทีม ไม่ได้แสดงทัศนคติที่ดีพอ มันย่อมเป็นเรื่องน่าผิดหวังสุดๆ

กรณีอย่างนี้ไม่ต้องไปมองด้วยว่า ชูเอา เฟลิกซ์ ที่มาแล้วประเดิมสนามเลย โดนใบแดงตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ทำให้เหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่าหรอก เพราะต่อให้เหลือ 11 คน นักเตะบางรายก็ใช่ว่าจะทุ่มเทอย่างที่ควรทำ

เชื่อว่า พ็อตเตอร์ เองก็คงพอจะมองเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น และน่าจะมีแผนรองรับแล้ว หลังจากเพิ่งเรียกพวกแข้งอาวุโสเข้ามาปรึกษาถึงปัญหาที่เกิดขึ้น

ในขณะเดียวกัน โบห์ลี่ ก็อย่าเร่งเปลี่ยนแปลงมากเกินไป ควรทำแบบทีละสเต็ป ไม่อย่างนั้นจะเป็นผลร้ายมากกว่า แม้จะรู้ว่านั่นคือเจตนาดีก็ตาม

พ็อตเตอร์ ยังคงได้รับโอกาสให้กุมบังเหียนต่อไป เพียงแต่ความกดดันจะทวีมากขึ้น ต้องอึดเข้าไว้ อดทนให้มากสุด เพื่อฝ่าวิกฤตครั้งนี้อย่างมีสติ

ไม่รู้เหมือนกันว่า จะต้องใช้วิธีการไหนกันแน่ นั่นคือการบ้านกองโตที่ต้องตีโจทย์ให้แตก สะสางภารกิจครั้งนี้

ความหวังที่เหลือคือขยับขึ้นมาแย่งท็อปโฟร์ และทำให้ดีที่สุดในศึกยุฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั่นแหล่ะคืองานช้างของ พ็อตเตอร์ เลย