3 นัดจากนี้จะชี้ชะตา กุนซือพ็อตเตอร์? ความพ่ายแพ้ของเชลซีต่อโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อคืนวันพุธ ดูจะไม่ใช่เรื่องน่าเซอร์ไพรส์อะไรนักหรอก
แฟนบอลเองต่างก็ไม่ได้คาดหวังว่า เชลซีจะต้องเค้นฟอร์มอันสุดยอดไล่ถล่มเจ้าบ้านในเลกแรก พวกเขาทำใจไว้บ้างแล้ว ผลงานล่าสุดมันก็ฟ้องอยู่ คอยเบรกไว้ไม่ให้ตั้งเป้าสูงเกินไป
จากความปราชัยล่าสุด ส่งผลให้สิงห์น้ำเงินทรุดหนักมากขึ้นกว่าเดิม 9 นัดหลังสุดในทุกรายการ ชนะเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นเอง ตัวเลขนี้ฟ้องอยู่แล้วว่า น่าเป็นห่วงขนาดไหน
สาวกมากมายไม่พอใจการทำงานในแบบฉบับ แกรห์ม พ็อตเตอร์ ผู้จัดการทีม เชื่อว่าไม่เหมาะกับสโมสรแน่นอน ไม่ใช่ว่าไร้ความสามารถ แต่เคมีไม่ตรงกัน หากจะพูดอย่างนี้คงมองเห็นภาพชัดขึ้น
พวกเขายังคงส่งเสียงโห่และขับไล่กุนซือตัวเอง ไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นเลย แสงสว่างปลายอุโมงค์มองไม่เห็น
ว่าไปแล้วเกมเจอดอร์ทมุนด์ ใช่ว่าจะเล่นแย่อะไรนัก จะบอกว่าโชคร้ายก็ไม่ผิดนักหรอก มีโอกาสมากมายหลายครั้ง แต่จบไม่ลง กระทั่งต้องกลายเป็นผู้ปราชัย เดินกลับออกมา
ในขณะเดียวกันเมื่อเทียบเงินลงทุนมหาศาลในตลาดซื้อขายผู้เล่น ที่ปาเข้าไปเกือบ 600 ล้านปอนด์ แต่ผลงานออกมาตรงข้าม จะให้แฟนบอลทนมองตาปริบๆ ก็คงไม่ได้หรอก
แต่เสียงของพวกเขาจะดังไปถึงกลุ่มทุนเจ้าของสโมสรหรือเปล่า นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยังไงมันก็ต้องได้ยินอยู่แล้ว ทว่าแอ็กชั่นที่ตอบสนองกลับมา นั่นแหล่ะน่าสนใจ
ท็อดด์ โบห์ลี่ ซึ่งเปรียบเป็นหัวเรือใหญ่ คนออกหน้าจัดการแทบทุกอย่าง น่าจะยังยึดมั่นตามนโนยายหรือแนวทางที่วางเอาไว้ต่อไปเช่นเดิม
เขาดึง พ็อตเตอร์ เข้ามากุมบังเหียน โดยไม่ได้คาดหวังไว้สูงว่าจะต้องประสบความสำเร็จ แบบต้มมะบี่กึ่งสำเร็จรูป ฉีกซองแล้วเทน้ำร้อนลงไป
แต่อยากเห็นสโมสรยืนระยะได้แบบมั่นคง เป็นการวางรากฐานปูพื้นให้แน่นปึ้กแข็งแกร่ง สำหรับการประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ด้วยทีมงานชุดเดิม ไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนบ่อยๆ
ฟังดูโปรเจคต์แล้ว ต้องยอมรับว่าไม่ง่ายเลยทีเดียว ทำให้ทีมยืนหยัดแบบยั่งยืน มันเหมือนโครงการขายฝันมากกว่า
แต่สำหรับ โบห์ลี่ เชื่อว่าต้องทำได้ เพราะเขากล้าลงทุนในตลาดมหาศาล มันเหมือนหว่านโปรยเมล็ดพันธุ์ พร้อมความหวังที่ว่าจะผลิดอกออกผลในวันข้างหน้า
กระนั้นจากผลงานที่ดิ่งเหวลงเรื่อยๆ 9 นัดทุกรายการ ชนะแค่นัดเดียวอย่างนี้ มันน่าติดตามว่า โบห์ลี่ จะคิดอย่างไรกัน
แทบทุกเกมเหย้า เขาจะเข้ามาชมอยู่ในสนามด้วย เพื่อคอยให้กำลังใจและสังเกตการเปลี่ยนแปลง มีพัฒนาการไปจากเดิมหรือเปล่า เป็นไปอย่างที่วางแผนไว้หรือไม่
หลายเกมที่เขาต้องรู้สึกผิดหวัง นั่งลุ้นบนบ็อกซ์วีไอพี แล้วแสดงภาษากายที่มันบ่งบอกได้อย่างชัดเจน ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก
ไม่มีใครรู้ว่า โบห์ลี่ คุยอะไรกับ พ็อตเตอร์ ไว้บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการขีดเส้นตายไว้ อย่างน้อยต้องใช้เวลาเท่าไรกัน ที่จะฉุดทีมให้กลับมาตรงจุดเดิม ไม่ใช่ปล่อยไว้เป็นอย่างนี้เรื่อยๆ
เพราะนั่นจะหมายถึงแรงกดดันที่ส่งตรงมายัง โบห์ลี่ อย่างเลี่ยงไม่ได้เลย ถ้าแฟนลบอลต่อต้าน พ็อตเตอร์ ไม่เชื่อในความสามารถอีกต่อไป จะต้องทำอย่างไรกันล่ะ
ไหนจะศรัทธาจากพวกนักเตะในทีมอีก ลองถ้าขาใหญ่ที่มีอิทธิพล ไม่เอาเจ้านายอีกต่อไป หมายถึงห้องแต่งตัวจะพังครืนลงมาทันที ยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก
ตอนนั้นหากจะแก้ไขอะไร มันอาจต้องพูดคำว่าสายเกินไปแล้วก็ได้ ฉะนั้นถ้ามีโอกาสควรจัดการตั้งแต่เวลานี้ ตัดไฟเสียแต่ต้นลม
ถ้าไม่ใช่ กุนซือพ็อตเตอร์ แล้วจะเป็นใครได้บ้าง?
ในขณะเดียวกันมีแฟนบอลไม่น้อยมองว่า ด้วยบุคลิกที่ดูเงียบและออกจะหงิมๆเกินไปของ พ็อตเตอร์ ลองถ้าว่าคุณไม่อาจพูดคุยกับนักเตะได้แล้ว มันก็คงเปลี่ยนแปลงยาก
จากนี้ต้องวัดใจ โบห์ลี่ ดูกันสักหน่อย จะยังทนเห็นเชลซีทีมที่ยิ่งใหญ่และลงทุนกับตลาดนักเตะในฤดูกาลนี้ไปเกือบ 600 ล้านปอนด์ จะทนเป็นพระอิฐพระปูน ได้นานสักแค่ไหนกัน
เราได้ยินแฟนเชลซี ตะโกนเรียกให้ โธมัส ทูเคิ่ล กลับมานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมอีกครั้ง
เราได้ยินแฟนบางรายอยากลองให้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาทำดูสักหน่อย หลังปล่อยของไว้เมื่อครั้งคุมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แม้จะไม่มีถ้วย แต่สไตล์น่าตอบโจทบย์
เราได้ยินกองเชียร์บางคน ร้องหา ซีเนดีน ซีดาน กุนซือผู้มีบุคลิกเงียบขรึมเหมือนกัน แต่อัดแน่นด้วยบารมี พูดอะไรออกไป นักเตะก็ยำเกรงเชื่อฟัง
จะว่าไปแล้วทางเลือกกุนซือใหม่ของเชลซี มีไม่น้อยเลยทีเดียว รอแค่ฝ่ายบริหารเคาะเปรี้ยงเดียวเท่านั้นว่าจะเอาอย่างไรกัน
ส่วน พ็อตเตอร์ 3 เกมนับจากนี้ ซึ่งจะเป็นพรีเมียร์ลีกล้วนๆ ไล่ตั้งแต่รับมือเซาธ์แฮมป์ตัน , เยือนสเปอร์สและเปิดบ้านรับลีดส์ ยูไนเต็ด ต้องทำให้ดีที่สุดเท่านั้นหรือพูดง่ายๆคือต้องเก็บ 9 แต้มเต็ม การันตีเกาะเก้าอี้ต่อไป
แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาตรงกันข้าม ไม่น่าประทับใจเหมือนอย่างที่เคยเป็น บอกได้เลยว่าชะตาอาจขาดเอาได้ง่ายๆ
ถึงที่สุดแล้ว ยังไงบอร์ดบริหารก็ต้องฟังเสียงของแฟนบอลเป็นหลัก คงทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอย่างนี้ไม่ได้หรอก
จับตาดูให้ดี ไม่กี่นัดจากนี้จะเป็นการชี้ชะตา พ็อตเตอร์ อย่างแท้จริง