24 ตุลาคมปีที่แล้ว มิดเดิลโบรช์ประกาศแต่งตั้ง ไมเคิ่ล คาร์ริค เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่
เขามาแทน คริส ไวล์เดอร์ กุนซือคนก่อน ซึ่งทำผลงานไม่น่าประทับใจเท่าไรนัก โดยก่อนหน้าจะมา เลโอ เพอร์โควิช โค้ชชาวอุรุกวัยทำหน้าที่รักษาการณ์แค่ช่วงสั้นๆ 5 เกม
ตอนรับงานโบโร่อยู่อันดับ 21 บนตารางเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ใกล้โซนแดงหรือพื้นที่ตกชั้นมากที่สุดแล้ว
ภารกิจของ คาร์ริค จึงหนักหนาสาหัสเลยทีเดียว ไม่ค่อยมีใครเชื่อมือสักเท่าไรอีกต่างหาก
ว่าไปแล้วไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก แฟนบอลโบโร่จะคิดอย่างนั้น ในเมื่ออดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษมีชั่วโมงบินที่น้อยมาก ไม่เคยผ่านงานเป็นเบอร์ 1 ในฐานะผู้จัดการทีมมาก่อน
ที่เคยนั่งเก้าอี้ ก็เป็นเพียงแค่รักษาการณ์แมนฯยูไนเต็ดไม่กี่วันรวมคุมได้เพียงแค่ 3 นัด จากนั้นก็ปล่อยให้ ราล์ฟ รังนิก มาสานงานกันต่อ
แต่จะว่าไปผลงานของเขาไม่เลวเลย บุกไปชนะบียาร์เรอัลจนพาทีมลิ่งน็อกเอาท์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงยันเสมอเชลซีที่เดอะ บริดจ์และพลิกเข่นอาร์เซน่อลใน 2 เกมลีก
ไม่ใช่แค่นั้น บรรดากูรูยังวิเคราะห์กันว่า คาร์ริค ทำทีมได้มีรูปแบบและรู้ศักยภาพนักเตะดีพอ ไม่ได้ฝืนไปตามกระแสอย่างที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทำก่อนหน้า
ถ้าจะให้อธิบายก็ประมาณ รู้ปัญหาอยู่ก่อนแล้วเกิดจากอะไร แต่ไม่อาจไปจัดการได้ ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง ต้องปล่อยให้ โซลชา แก้ไขเอาเอง
ความจริงแล้ว รังนิก อยากให้ คาร์ริค รับบทผู้ช่วยเช่นเดิม ต้องการคนที่รู้งานและเข้าใจนักเตะมากพอมาคอยเคียงข้าง
แต่เขาปฏิเสธชนิดไม่ต้องคิดมากเลย ในเมื่อลูกพี่โดนเชือด ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ยอมจากไปอย่างสง่างามดีกว่า
ช่วงเขาเป็นมือขวา โซลชา นับว่าเป็นที่นิยมของพวกนักเตะเวลาอยู่ในสนามซ้อม ด้วยความที่เป็นนักเตะเก่า มีประสบการณ์มากมาย รวมถึงประสบความสำเร็จมาตลอด จึงถ่ายทอดวิธีการเล่นหรือทริกต่างๆได้อย่างดีเยี่ยม
บรูโน่ แฟร์นันด์ส คือหนึ่งในแข้งที่เทิดทูน คาร์ริค อย่างมาก ยอมรับไม่เคยเห็นใครเจ๋งเท่านี้มาก่อน จึงได้วิชาความรู้จากอาจารย์ไปเยอะเลย
ตัดภาพกลับมาตอนรับงานคุมมิดเดิลโบรช์ใหม่ๆ อย่างที่บอกไว้ ไม่ค่อยได้รับความไว้วางใจนัก
ไหนจะมีบุคลิกเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดค่อยจา สงวนปากคำมากเกินไป แล้วจะเอาพวกแข้งรุ่นเดอะหรือชอบท้าทายอยู่หมัดหรือ
เขารับตำแหน่งวันที่ 24 ตุลาคม หลังจากนั้นอีก 5 วันต้องประเดิมพาทีมบุกเปรสตัน นอร์ธเอนด์ โดยที่ยิงประตูขึ้นนำก่อนตั้งแต่ 5 นาทีแรก แต่กลับพลาดท่าปล่อยให้เจ้าบ้านรัวแซงชนะ 2-1
แน่นอนว่าแฟนบอลผิดหวัง ความไม่ไว้วางใจคลางแคลงสงสัย ย่อมเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา ไม่น่าจะไปรอดแล้ว ลองถ้าออกตัวแนวนี้
ผลงานของ ไมเคิ่ล คาร์ริค ไม่เป็นสองรองใคร
อย่างไรก็ตามฟุตบอลลีก มันต้องดูกันแบบยาวๆ ไม่ใช่มาตัดสินจากเกมเดียว เพราะหลังจากนั้นอีก 8 เกม คาร์ริค พาทีมคว้าชัยถึง 6 และแพ้แค่ 1 เกมเท่านั้นเอง
จากที่จมปลักอยู่ท้ายตารางและอาจต้องตะเกียกตะกายหนีตกชั้นได้ สถานการณ์พลิกผันทันใด กลายเป็นว่าค่อยๆเขยิบขึ้นมาอยู่ข้างบน สูดอากาศบริสุทธิ์บ้าง
กระทั่งล่าสุด เขาคุมในลีกมาถึง 17 นัด ผลงานอันน่าประทับสุดๆก็คือ ชนะถึง 13 เสมอ 1 และแพ้เพียงแค่ 3 เท่านั้นเอง
น่าสนใจกว่านั้นคือ 5 นัดหลัง เดินหน้ากวาดชัยรวด เก็บไป 15 แต้มเต็ม ยิงได้ 14 ประตูและเสียแค่ 3 ซึ่งถือว่าน้อยอย่างมาก
ตอนมาอันดับสุ่มเสี่ยงหมิ่นเหม่อย่างมาก รูดไปอยู่ที่ 21 ปัจจุบันขึ้นมาอันดับ 3 แล้ว ตามหลังเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดรองจ่าฝูงแค่ 4 คะแนน โอกาสเลื่อนชั้นแบบอันโนมัติ ไม่ต้องไปเหนื่อยเพลย์ออฟมีมากเลยทีเดียว
ปกติแล้วพวกนักเตะจะเป็นที่นิยมของแฟนบอล แต่สำหรับกองเชียร์โบโร่ พวกเขาต่างยกย่อง คาร์ริค อย่างมาก เทิดทูนเหมือนไอดอลคนหนึ่งเลย
เหตุผลนอกเหนือจากผลงานอันเป็นรูปธรรมเด่นชัดแล้ว มันน่าทึ่งมาก คาร์ริค ใช้เวลาไม่กี่เดือน ปะผุโมดิฟายให้โบโร่มีสไตล์การเล่นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ทั้งที่ขุมกำลังแทบไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายเลยด้วยซ้ำ ยึดแข้งที่เหลือเป็นแกนหลัก อาศัยการพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทดแทนเอา ไม่ได้ผลาญงบสิ้นเปลืองเลย
ตลาดมกราคมก็ไม่ได้ใช้เงินซื้อมาเพิ่มเลยสักเพนนี นั่้นไม่ใช่นโยบายสโมสรและแนวทางของเขาด้วย
ชูบา อักปอม อดีตตัวรุกอาร์เซน่อล ซึ่งก่อนจะได้ร่วมงานกับ คาร์ริค ยิงไปเพียงแค่ 4 ประตูในฤดูกาลนี้ พอเปลี่ยนบอสเท่านั้นเอง ซัดระเบิดถึง 16 ประตู ลุ้นดาวซัลโวเลยทีนี้
นั่นทำให้ สตีฟ กิ๊บสัน เจ้าของสโมสร ซึ่งควบตำแหน่งประธานมานานเกือบ 30 ปี มีความสุขอย่างมาก พร้อมทั้งยินดีจะทุ่มงบประมาณสนับสนุนในซัมเมอร์ที่จะถึง ยิ่งถ้าได้เลื่อนกลับไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง เอาก้อนใหญ่ไปเลย
แม้เส้นทางยังเหลืออีกพอสมควร โบโร่จำต้องรักษามาตรฐานเอาไว้ให้ได้ หนักแน่นตามวิถีของตัวเอง โฟกัสที่ปัจจุบัน ไม่หลงระเริงกับอดีตหรือมัวแต่ฝันหวานกับอนาคต
ตั๋วสู่พรีเมียร์ลีก ไม่ได้ไกลเกินเอื้อมเลยและหากทำสำเร็จ คนที่เงียบเชียบมากกว่าใคร ใช้การทำงานแทนคำพูดอย่าง คาร์ริค จะได้รับเสียงสดุดีเยอะสุดแน่นอน