เป๊ปพร้อมแตกหักถ้า แมนซิตี้ ผิดจริง หลังจากพ่ายแพ้ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ในเกมพรีเมียร์ลีกคู่สุดท้ายประจำวีกเอนด์
ไม่ถึง 24 ชั่วโมงถัดมา แมนฯซิตี้ก็ต้องเจอข่าวร้ายกระแทกซ้ำอีกระลอก เมื่อทางพรีเมียร์ลีกมีคำแถลงการณ์ว่า ได้ละเมิดกฎการเงิน หลังจากที่ใช้เวลาตรวจสอบนาน 4 ปีเต็ม
ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ก็คือ ซิตี้โดนตั้งข้อกล่าวหา จากการทำผิดมากกว่า 100 ครั้งในเคสนี้ ตลอดเวลา 9 ปี คือนับตั้งแต่ปี 2009 ลากยาวมาจนถึงปี 2018
มาร์ติน ซีกเลอร์ นักข่าวจากเดอะ ไทม์ส ระบุเอาไว้ว่า หากสอบสวนเพิ่มเติม แล้วมีหลักฐานมัดแน่นมากพอสำหรับเอาผิดได้ ย่อมมีบทลงโทษตามมาอย่างแน่นอน
มันเป็นไปได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการปรับเงิน ซึ่งถือว่าเบาสุดตามกระบวนการ , การหักคะแนนในลีกหรือในกรณีแย่สุดๆแล้ว ก็คือขับพ้นจากลีกไปเลย ชื่อของแมนฯซิตี้จะหายไปจากสารบบลีกผู้ดี
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ตลอด 9 ปีดังกล่าว มีการทำผิดกฎแตกต่างกันออกไป ดังนั้นหากจะไล่เรียงลงโทษแบบต่างกรรมต่างวาระ มันก็อาจทำให้พวกเขามีสิทธิ์ถูกริบแชมป์ย้อนหลัง ในกรณีที่มีการหักคะแนนเกิดขึ้น
อย่างเช่นในฤดูกาล 2011/12 ซึ่งเบียดชนะแมนฯยูไนเต็ดพลิกเข้าป้ายในวินาทีสุดท้าย จากลูกยิงประวัติศาสตร์ของ เซร์คิโอ “กุน” อเกวโร่ โดยเฉือนแค่ประตูได้เสีย
ถ้าเจอหักแต้มขึ้นมา ไม่ว่าเท่าไร แชมป์ลีกจะตกมาเป็นของปีศาจแดงทดแทนเลยทันที
ในขณะเดียวกันซีซั่น 2013/14 ที่เร่งสปีดจนเข้าเส้นชัยแซงหน้าลิเวอร์พูล ซึ่งเกิดจังหวะสะดุดหัวคะมำพอดี ก็อาจโดนยึดแชมป์ไปให้หงส์แดงได้เหมือนกัน
ต้องบอกก่อนว่า นี่คือสมมุติหรือยกตัวอย่างขึ้นมา เพื่อทำให้เห็นภาพชัดขึ้นเท่านั้นเอง เรื่องจริงจะเป็นอย่างไร ต้องรอดูกันต่อไป
อย่างไรก็ตามข่าวนี้ มันทำให้หลายคนนึกย้อนไปยังช่วงกลางปี 2020 สหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือยูฟ่า สั่งลงโทษแบนแมนฯซิตี้ห้ามเข้ามามีส่วนร่วมในฟุตบอลถ้วยยุโรป 2 ปีด้วยกัน พร้อมปรับเงินมหาโหด 30 ล้านยูโร จากข้อละเมิดกฎการเงิน
แต่ซิตี้ไม่ยอมแพ้ ดิ้นสู้ในชั้นอุทธรณ์ รวบรวมหลักฐานมาฟาดฟันกันอย่างเต็มกำลัง ก่อนจะยื่นต่อศาลสูงกีฬา แล้วมีการตัดสินกันใหม่ให้รอดจากโทษแบน 2 ปี ส่วนเงินเหลือปรับแค่ 10 ล้านยูโรเท่านั้น
แน่นอนว่ามันทำหลายคนงงไปเลย เพราะเชื่อว่าหลักฐานน่าจะมากพอสำหรับเอาผิดได้อยู่แล้ว ไม่น่าหลุดรอดง่ายๆ แต่ก็นั่นแหล่ะเมื่อผลออกมา ก็ต้องว่ากันตามนั้น
พอมีบทเรียนและรอดมาได้อย่างจวนเจียน ซิตี้ก็จำเป็นต้องระมัดระวังการใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าอย่างไรก็ถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา
แมนซิตี้ กับเส้นทางการเงินที่ต้องระวัง
ขณะเดียวกันวิธีการซิกแซ็ก โยกเงินจากธุรกิจเจ้าของสโมสร เพื่อมาสนับสนุนทีมนั้น ก็ต้องทำให้เนียนที่สุดด้วย
อย่างเช่นสปอนเซอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในเครือข่าย หากคุณจะเล่นแบบง่ายๆ จ่ายเงินเกินจริง ก็จะโดนตรวจสอบเช่นกัน เพราะหากมองกันที่แบรนด์หรือมูลค่าทางการตลาด ไม่มีทางหรอกที่แมนฯซิตี้จะเทียบเท่าแมนฯยูไนเต็ด
ฉะนั้นสมมุติว่าแมนฯยูไนเต็ดมีรายได้จากสปอนเซอร์คาดอกเสื้อ 60 ล้านปอนด์ต่อปี เรือใบสีฟ้าจะไม่มีทางได้มากว่าหรือเทียบเท่า ยังไงก็ต้องลดหลั่นลงมา
เรื่องอย่างนี้มันสืบสาวกันได้ ไม่ใช่อะไรที่ยากลำบากหรอก ยกเว้นแกล้งทำมองไม่เห็นเท่านั้นเอง
จำได้ว่าตอนโดนยูฟ่าลงดาบ แบนจากเกมยุโรป 2 ปี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เครียดไม่ใช่น้อย หลังจากนั้นไม่นานเท่าไรนัก เขาให้สัมภาษณ์ว่า หากรับรู้ข้อมูลทางสโมสรจงใจบิดเบือน เพื่อแหกกฎจริง ก็จะจากไปทันทีอย่างไม่รีรอ
ด้วยเหตุนี้สถานการณ์ปัจจุบันของซิตี้ จึงน่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะ เป๊ป ผู้จัดการทีม ซึ่งเสกความสำเร็จมากมาย แชมป์พรีเมียร์ลีก 4 จาก 5 ปีหลังสุด จะเอาอย่างไรกับอนาคต
กิตติศัพท์อย่างหนึ่งของกุนซือสแปนิชคือ ให้ความสำคัญต่อเรื่องภาพลักษณ์มากๆ เขาจะไม่ทำงานหรือร่วมงานกับสิ่งที่คิดว่าผิดจริง ไม่เหมาะสม พร้อมเดินจากมาเลย
ฉะนั้นเคสนี้แมนฯซิตี้ต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่าบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นจริงตามข้อกล่าวหาของพรีเมียร์ลีก
เพราะทางพวกเขาก็มีแถลงการณ์แล้วว่า ยินดีให้มาตรวจสอบเลย ไม่ต้องห่วงพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่และหลังจากนี้จะได้หยุดสักที ไม่อย่างนั้นก็โดนตามราวีมาตลอด
มันเป็นเรื่องปกติที่แอ็กชั่นของทางซิตี้ จะต้องเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ไม่หวาดหวั่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากมีท่าทีหงอหรือแสดงอาการกลัวขึ้นมา มันจะฟ้องเลยว่าคุณผิดจริง
แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยกว่ากันก็คือ ข่าวนี้จะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้เล่นมากน้อยแค่ไหนกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีอยู่แล้ว
มันเป็นช่วงเวลาที่ทีมกำลังไล่ล่าแย่งแชมป์ลีก แล้วมาสะดุดเกมล่าสุด นอกจากนี้ในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกและเอฟเอ คัพก็ยังอยู่บนเส้นทาง
ในระหว่างที่รอคำตัดสิน พวกเขาต้องพยายามมีสมาธิกับเกมให้มากที่สุด เรื่องอื่นปล่อยให้สโมสรจัดการกันไป ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงอยู่แล้ว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูท่าที เป๊ป จะมีวิธีไหน เพื่อแก้ไขให้วิกฤตในเวลานี้ผ่านไปได้ด้วยดี
เพราะหากผ่านไม่ได้ นั่นหมายความว่า ต้องทางใครทางมันอย่างเดียวเท่านั้น