จากที่เป็นเต็ง 2 ผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกที่พ้นจากตำแหน่งคนต่อไป เวลานี้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด น่าจะขยับขึ้นอันดับ 1 เรียบร้อย
ก่อนหน้านี้ เจสซี่ มาร์ช กุนซือลีดส์ ยูไนเต็ด โดนดันเป็นตัวเต็ง ด้วยฟอร์มช่วงหลังที่เริ่มแผ่ว ไม่เป็นไปอย่างที่ฝ่ายบริหารคาดหวังเอาไว้
อย่างไรก็ดีระบบการเล่นของลีดส์ ยูไนเต็ด ยังดูดีมีวี่แววว่าจะไปได้ในวันข้างหน้า ไม่ถึงขั้นหมดอนาคตหดหู่ใจ แม้ล่าสุดจะพ่ายสเปอร์ส 3-4 ทั้งที่เป็นฝ่ายออกนำถึง 3 ครั้งก็ตาม
ในขณะที่ เอฟเวอร์ตันยกพลเยือนบอร์นมัธ ก่อนจะพ่ายหมดสภาพ 0-3 นอกเหนือจากสกอร์ที่ฟ้องว่าห่วยแตกแล้ว ใครได้ดูเกมก็ต้องยอมรับไม่ต่างกันว่า ทอฟฟี่สีน้ำเงินคู่ควรกับการหนีตกชั้นอย่างแท้จริง อันดับรูดไปอยู่ที่ 17 แล้ว
นั่นแหล่ะทำให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ต้องตกอยู่ในสถานการณ์บีบคั้นอย่างหนัก เพราะช่วงหลังก็ทรุดหนักอยู่แล้ว ดันมาเจอตอกหัวตะปูย้ำอีกจากนัดล่าสุด แทบจะดูไม่จืดกันเลยทีเดียว
8 นัดหลังสุดทุกรายการ เอฟเวอร์ตันชนะเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น เสมออีก 1 ที่เหลือพ่ายรูด 6 เกม รับประกันได้อย่างดีว่าแย่ขนาดไหน ไม่ต้องไปพิจารณาองค์ประกอบอื่นกันเลย
ไม่น่าแปลกใจหรอกที่สาวกทอฟฟี่สีน้ำเงิน ซึ่งลงทุนตามมาเชียร์กันถึงบอร์นมัธ ที่เริ่มหมดความอดทน จะระเบิดความรู้สึกออกมา ด้วยการโห่ไล่ทีมตัวเอง เกินกว่าจะรับไหวจริงๆ
แฟนบอลเริ่มหมดศรัทธากับทีม
ในขณะเดียวกันหลังเกมจบลง แลมพาร์ด หวังจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายกว่าเดิม พาลูกทีมไปขอบคุณแฟนๆ ซึ่งเดินทางไกลหลายร้อยไมล์ตามมาเชียร์ แต่กลับยิ่งแย่กว่าเดิม
มีไม่น้อยเลยที่ตะโกนด่าบ้าง ชูนิ้วกลางบ้าง เป่าปากเฟี้ยวฟ้าว บ่งบอกความไม่พอใจ แม้บางส่วนปรบมือให้สนับสนุน แต่ก็ดูน้อยกว่าอยู่ดี
หนักกว่านั้นคือ อเล็กซ์ อิโวบี้ ซึ่งก่อนหน้าฟอร์มโดดเด่นถูกจับตามากๆ ช่วงหลังชักไม่ค่อยดีเท่าไร ถอดเสื้อตัวที่ลงเล่นนี่แหล่ะ ไปให้แฟนบอลเหมือนเป็นการตอบแทนน้ำใจ
ปกติแล้วพวกกองเชียร์เวลาได้เสื้อจากผู้เล่น ซึ่งใช้สวมใส่ลงแข่งเกมจริงๆ ย่อมปลาบปลื้มดีใจกันทั้งนั้น ไม่เก็บไว้เป็นที่ระลึก ก็ถึงขั้นเอาไปปล่อยประมูลได้เงินไม่น้อย
แต่ครั้งนี้แฟนบอลที่ดูเหมือนจะโชคดีได้เสื้อของ อิโวบี้ ไม่คิดอย่างนั้นเลย จัดการปาคืนหลับมาเหมือนไม่แยแสและไม่แคร์ความรู้สึกของนักเตะแม้แต่น้อย
แล้วคลิปดังกล่าวก็แพร่กระจายกลายเป็นไวรัลทางออนไลน์ ฟ้องชัดเจนว่า ศรัทธาของแฟนบอลเอฟเวอร์ตันที่มีต่อทีมรัก กำลังจะหมดลง มันแย่เกินกว่าจะแบกรับไหวอีกต่อไป
แลมพาร์ด ผู้เป็นความหวังของทีม
ย้อนกลับไปช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ตลาดซื้อขายผู้เล่นยังคงเปิดทำการ บอร์ดบริหารของทีมได้อนุมัติเงินเกือบ 100 ล้านปอนด์ให้เสริมทัพ เติมขุมกำลังแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เป้าหมายคือไม่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างเคย รวมถึงมีลุ้นแชมป์บอลถ้วยหรือเข้ารอบลึกบ้าง
ที่สำคัญไฟเขียว แลมพาร์ด เฟ้นหาผู้เล่นที่ตรงสเป็ค หลังจากนี้ทีมจะได้มีระบบระเบียบมากกว่าที่เคย ไม่ใช่สะเปะสะปะจนจับต้นชนปลายไม่ถูก
พวกเขาคว้าตัวผู้เล่นอย่าง ดไวท์ แม็คนีลล์ , อมาดู โอนาน่า , นีล โมเปย์ , เจมส์ การ์เนอร์ , อดริสซ่า กานา เกย์ รวมทั้งได้ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ มาแบบฟรีๆ อีกทั้งยิม คอร์เนอร์ โคดี้ กับ รูเบน วินาเกร 2 แข้งชั้นดีมาช่วยอีก
เมื่อรวมของเก่าที่ยังเหลือถือว่าโอเคเลย ยกเว้นแค่เสีย ริชาร์ลิซอน ไปให้ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์เท่านั้น ดูจะส่งแรงสะเทือนหนักสุด
ด้วยงบประมาณที่ทุ่มลงไป ย่อมสร้างความหวังให้กองเชียร์มากยิ่งขึ้น พวกเขายังเชื่อมั่นใน แลมพาร์ด ว่าจะผลักดันให้ไปข้างหน้าอย่างมั่นคง อย่างน้อยการเป็นกุนซือชาวอังกฤษ เป็นอดีตนักเตะระดับตำนาน เคยคุมทีมใหญ่อย่างเชลซีมาก่อน คงประคับประคองไหว
อย่างไรก็ตามปัญหาของเขาอยู่ที่ประสบการณ์ ต่อให้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามเป็นที่ยอมรับเมื่อครั้งค้าแข้ง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดึงมาช่วยตอนคุมทีม มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
การไม่มี ริชาร์ลิซอน อีกต่อไป ประสิทธิภาพในแดนหน้าก็ลดฮวบฮาบน่าใจหาย แข้งใหม่อย่าง โมเปย์ ดูเหมือนยังไม่เข้าที่ ไม่มีทางทดแทนได้ในเร็ววันเลย
แม็คนีลล์ เองก็เช่นกัน ซึ่งคลาสบอลไม่น่าจะถึง จนแฟนๆถามว่าทำไมถึงไปเอาแข้งจากเบิร์นลี่ย์ ทีมที่ตกชั้นมาล่ะ แมวมองหรือผู้อำนวยการกีฬาทำหน้าที่กันยังไง เพราะใช้เงินตั้งเกือบ 20 ล้านปอนด์ไปซื้อหามา
เห็นจะมี โอนาน่า กองกลางทีมชาติเบลเยียม ซึ่งมีชื่อลุยฟุตบอลโลกด้วย พอจะพึ่งพาเป็นแกนหลักได้บ้าง แต่ลำพังนักเตะเพียงคนเดียว แถมเพิ่งย้ายมาใหม่ จะไปโยนภาระหนักอึ้งให้เลยก็เกินไป
บทความที่เกี่ยวข้อง หากเจ้าของ หงส์แดง เปลี่ยนมือแล้วคล็อปป์จะเปลี่ยนใจ?
แลมพาร์ด อาจได้คุมทีมเป็นครั้งสุดท้าย
ปัญหาของ แลมพาร์ด ก็คือ ค้นหาวิธีการเล่นที่เหมาะสมและดีสุดยังไม่เจอ คลำทางเหมือนคนตาบอด ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของกองเชียร์ว่าไม่มั่นใจในตัวเองเลย
การเข้าทำของเอฟเวอร์ตัน ไม่ได้มาจากระบบ เป็นรูปแบบฉาบฉวย ใช้ความสามารถเฉพาะตัวมากกว่า วันไหนนักเตะเข้าฝักเข้าฟอร์มก็ดีไป ซึ่งมันเป็นสิ่งที่กำหนดไม่ได้เลย
แต่เมื่อมองย้อนกลับมา ต้องบอกเลยว่าแฟนเอฟเวอร์ตันส่วนมากนี่แหล่ะอยากได้ แลมพาร์ด มาคุมทีม พวกเขาไม่ต้องการกุนซือต่างชาติที่ชื่อโนเนมเกิน มันดูเสี่ยงมากไป แล้วตอนนั้น แลมพาร์ด เองก็ผ่านการคุมเชลซีเรียบร้อย
จากที่ผายมือยินดีต้อนรับ กล่าวทักทายเสียงใสแจ๋ว เวลานี้ทุกอย่างตรงข้ามสิ้นเชิง แลมพาร์ด เริ่มอยู่ยากขึ้นหรือบางทีอาจอยู่ไม่ได้เลย
นี่เป็นแมตช์สุดท้ายของเอฟเวอร์ตันก่อนหลีกให้บอลโลกมาคั่น เชื่อว่าบอร์ดบริหารมีเวลาสำหรับการพิจารณาพอดี
บางทีมันอาจเป็นแมตช์สุดท้ายของเขาในฐานะผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตันเช่นกัน
