“เอมิลิอาโน่ มาร์ตีเนซ” นายทวารยอดเยี่ยมพร้อมรับแรงกระแทกแค่ไหน?

ไม่น่าเชื่อว่า เอมิลิอาโน่ มาร์ตีเนซ จะกลายเป็นนักเตะที่อยู่ในเฟรมมากสุดคนหนึ่งของฟุตบอลโลกที่เพิ่งปิดฉากลงไม่กี่วันก่อน

นอกจากประกาศศักดาเซฟจุดโทษในการยิงตัดสินนัดชิง จนนำอาร์เจนติน่าครองแชมป์ครั้งแรกในรอบ 36 ปีแล้ว

เขายังได้รับเลือกให้รับรางวัล ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์ ได้ครอบครองถุงมือทองคำอันทรงเกียรติอีกต่างหาก

หลายคนยังจำภาพเหตุการณ์ ตอนที่เขาขึ้นรับได้ดี เพราะพอได้มาแล้ว เขาเอารางวัลกระแทกไปที่เป้าของตัวเอง เหมือนไม่ได้แคร์ใครเลยสักนิด จนเป็นที่ฮือฮาไปทั่ว

มารู้ภายหลังจากการที่เขาเฉลยเองว่า ต้องการล้างแค้นแฟนฝรั่งเศสที่โห่ใส่ เป็นการกลบเสียงนั่นแหล่ะ

แต่ก็มีคนแย้งว่า ในสนามมีแฟนบอลฝรั่งเศสราว 5,000 พันคนเท่านั้น น้อยกว่าของอาร์เจนตินาเกือบ 10 เท่าด้วยกัน ยังไงก็ไม่น่าดังขนาด ต้องโกรธแค้นอะไรมากมายเลย

แต่ช็อตสำคัญยิ่งกว่าเห็นจะเป็น ตอนบินกลับมาฉลองความสำเร็จที่อาร์เจนติน่าบ้านเกิด ช่วงอยู่บนรถบัสเปิดประทุน วิ่งไปรอบเมืองเพื่อให้แฟนๆได้ชื่นชม ปรากฏว่า เอมิ ถือตุ๊กตาตัวเล็กๆ แต่ตรงใบหน้าเอารูปของ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ มาแปะไว้ เหมือนเป็นการหยามหยันกัน

มันเหมือนต้องการบอกว่า แกก็แค่เด็กทารกนั่นแหล่ะ ไม่มีปัญหาทำอะไรได้หรอกน่า

ย้อนไปก่อนหน้านั้น ระหว่างฉลองกันอย่างบ้าคลั่งในห้องแต่งตัว ร้องเพลงเต้นรำกันครึกครื้น เอมิ ก็ตะโกนบอกให้เพื่อนหยุดก่อน เพื่อไว้อาลัยให้ เอ็มบั๊ปเป้ เสร็จแล้วก็ร้องเพลงกันต่อ หัวเราะชอบใจกันใหญ่

2 เหตุการณ์นี่เอง ทำเอาแฟนบอลฝรั่งเศสไม่พอใจอย่างมาก ออกมาโวยวาย พร้อมทั้งฝังแค้นไว้เลยว่า หากครั้งหน้าล้มขึ้นมาบ้าง ไม่ต้องห่วงหรอกโดนเอาคืนแน่

คนล้มห้ามเหยียบย่ำซ้ำ แต่ของเคส เอมิ มันจะไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน

ทั้งที่จะว่าไปแล้ว แฟนบอลมากมายที่ไม่ใช่แฟนอาร์เจนตินา , แอสตัน วิลล่าหรือแม้แต่อาร์เซน่อลต้นสังกัดเก่า ต่างประทับใจเส้นทางของ เอมิ ที่ต้องต่อสู้มาอย่างหนัก กว่าจะมามีวันนี้ได้

เอมิลิอาโน่ มาร์ตีเนซ ในช่วงเริ่มติดทีมใหญ่

ย้อนกลับไปในปี 2012 เอมิ ย้ายสู่อาร์เซน่อล พกพาดีกรีผู้รักษาประตู ทีมชาติอาร์เจนตินาชุดอายุต่ำกว่า 20 ปีติดมาด้วย

เขาได้คุยกับ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมในเวลานั้น จึงเพิ่มความเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะเคยปั้นนักเตะมามากมาย

อย่างไรก็ตาม เวนเกอร์ ย้ำว่าช่วงแรกของการย้ายมาลอนดอนต้องทำงานหนักให้มากที่สุดเพื่อพิสูจน์ตัวเอง นั่นเป็นหนทางที่จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริง

เอมิ จึงเป็นสำรองแบบถาวร แถมยังเป็นเพียงแค่มือ 3 อีกต่างหาก ต้องรอคอยโอกาสถัดจาก วอยเชียค เชสนี่ และ ลูคัส ฟาเบียนสกี้

มันเป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดมากๆ ทางออกจึงไม่มีอะไรดีไปกว่าปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัว ซึ่งในพรีเมียร์ลีกไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว แค่มือ 3 เท่านั้น ไม่มีอะไรน่าสนใจ

ดังนั้นจึงเริ่มด้วยการไปเฝ้าเสาให้อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ซึ่งอยู่ไกลสุดกู่ถึงลีกทู คิดว่าน่าจะมีโอกาสมากขึ้น แต่ที่ไหนได้ลงเล่นเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น

จากเคยเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนตินาตั้งแต่เยาวชน ชุดใหญ่ก็เคยแล้ว แต่ต้องมาตกอยู่ในชะตากรรมเช่นนี้ มันน่าเจ็บปวดขนาดไหน

ฤดูกาล 2013/14 ต้องย้ายอีกครั้ง คราวนี้ไปช่วยเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ซึ่งอยู่ในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ แต่ทำไปเพียงแค่ 3 คลีนชีตจาก 20 เกมด้วยกัน ผลงานอย่างนี้ต้องบอกว่าล้มเหลว

ซีซั่นต่อมาเปลี่ยนมาเล่นให้ร็อตเธอร์แฮมในเดอะ แชมเปี้ยนชิพเหมือนเคย 8 นัด เสีย 10 ประตู ทำได้ 2 คลีนชีต โดยที่มีโอกาสทำหน้าที่ให้อาร์เซน่อล 4 เกมลีก ทำไปถึง 2 คลีนชีตและเสีย 4 ประตู นับว่าไม่เลวเลย

แต่ก็ยังไม่ดีพอสำหรับเบียดขึ้นมาเป็นมือ 1 หรอก เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือโอกาสพิสูจน์ ซึ่งไม่ได้มาง่ายเลย

จากนั้นยังคงระหกระเหินไปเรื่อย เหมือนนกไร้รังถาวร มันยิ่งทำให้คุณค่าของตนถูกลดอีก พอกลับมาอาร์เซน่อลอีกครั้ง ก็ยังคงสถานะเดิม เพราะมี แบรนด์ เลโน่ ขวางทางอยู่

บทความที่เกี่ยวข้อง
ตลาดนักเตะ หน้าหนาว ถ้าชอบจริงก็ต้องรีบวิ่งเข้าหา

กระทั่งช่วงรีสตาร์ต เกมฟุตบอลกลับมาอีกรอบหลังต้องหนีโควิด-19 เลโน่ เกิดบาดเจ็บหนัก

เอมิ รู้ทันทีนั่นคือโอกาสทองแล้ว ก่อนทำผลงานไม่เลวเลย พรีเมียร์ลีก 9 นัดได้ 3 คลีนชีต ในยูโรปาลีก 6 นัด 2 คลีนชีต ในลีกคัพก็ได้ลงเล่น 2 เกมยังได้มา 1 คลีนชีต

แต่เหตุการณ์ทำให้ เกมนัดชิงเอฟเอคัพกับเชลซี ซึ่งแน่นอนว่า เลโน่ ยังฟื้นตัวไม่ทัน เอมิ เลยส้มหล่นได้รับบทบาทสำคัญ

แม้จะโดนสิงห์น้ำเงินยิงนำก่อน 1-0 แต่หลังจากนั้น เอมิ ก็ช่วยเซฟสำคัญหลายครั้ง จนนำไปสู่การกลับมาสู่ชัยชนะ 2-1 คว้าแชมป์อย่างน่าระทึก

ใครต่อใครคงจำภาพผู้รักษาประตูคนหนึ่งกำลังวีดีโอคอลล์คุยกับครอบครัว พร้อมทั้งร่ำไห้ไม่อายฟ้าดิน แต่เป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มตื้นตัน

หลังจากกราฟชีวิตก็พุ่งเรื่อยๆ ได้ย้ายไปเฝ้าเสาแอสตัน วิลล่า สร้างชื่อเสียงและเงินทอง รวมถึงติดทีมชาติอาร์เจนตินาชุดใหญ่ ยึดมือ 1 อย่างถาวร

จากวันนั้นจวบปัจจุบัน ความเห็นใจและสงสารของผู้คนมากมายเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นเกลียดชังและหมั่นไว้ ถูกเข้ามาทดแทน

น่าสนใจก็คือ เอมิ พร้อมแค่ไหนจะรับแรงกระแทก ซึ่งเป็นผลจากการกระทำของตนเอง

เพราะถึงเวลานั้นอาจไม่มีใครเห็นใจอีกแล้ว ซึ่งเขาจะโทษใครไม่ได้เลย