แม้จะกวดอาร์เซน่อลได้ทัน แต่เชื่อว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สะสมความเครียดไว้ไม่น้อยเลย
เป็นที่รู้กันดีว่า สถานการณ์ของแมนฯซิตี้เต็มไปด้วยความตึงเครียดอย่างมาก หลังโดนพรีเมียร์ลีกตั้งข้อกล่าวหาละเมิดกฎการเงิน โดยใช้เวลาสอบสวนราว 4 ปี พบกระทำผิดมากกว่า 100 ครั้ง
ระยะเวลาก็ลากยาวนานถึง 9 ปี ตั้งแต่ 2009-2018 มีหลายเคสที่น่าสนใจและเชื่อกันว่างานนี้คงดิ้นหลุดยาก ยังไงก็ต้องติดบ่วงบ้างแหล่ะน่า เพราะตามรายงานระบุว่า ต่างกรรมต่างวาระเลยจริงๆ
ทีนี้มีพวกสื่อไปขุดคำพูดของ เป๊ป ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปีที่แล้ว หากรู้ว่าทางบอร์ดบริหารทำผิดจริง ซึ่งหมายถึงการโกหกกัน เขาจะลาออกทันที ชนิดที่ว่าไม่ต้องเหลือเยื่อใย ตัดมิตรภาพที่ก่อร่างสร้างตัวมานานเลย
แน่นอนว่าหากเกิดเคสเช่นนี้ มันหมายถึงเขาถูกหักหลัง ในเมื่อเบื้องบนให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ทำผิด แล้วเหตุใดจึงลงเอยเช่นนี้ล่ะ
แต่พอสื่อเอาเรื่องนี้ไปโยงกัน กุนซือสแปนิชรู้สึกหัวเสียและหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นอีก ถึงขั้นนอตหลุดฟาดงวงควงงา ไล่บดขยี้แบบแทบไม่เคยเห็นมาก่อน
พวกนักข่าวพยายามชี้ช่องว่า หากการสอบสวนพบความผิดจริงขึ้นมา อาจเป็นไปได้ว่าในช่วง 9 ปีดังกล่าว ต้องมีบางซีซั่นที่โดนลงโทษ หากหนักหน่อย ไม่ใช่แค่ปรับเงิน แต่ถึงขั้นหักแต้มเลย
ถ้าอย่างนั้นมันหมายถึงว่า ซีซั่นไหนที่ได้แชมป์ลีกมา พอโดนตัดแต้ม มีสิทธิ์ที่จะโดนริบ แล้วยกให้ทีมอันดับ 2 แทนตามกฎกติกาทั่วไป
ทีนี้ก่อนเกมเจอกับแอสตัน วิลล่า เขาโดนนักข่าวจี้ถามอีก คิดอย่างไรกับเรื่องนี้
เลยตอบไปในทำนองว่า ตกลงแมนฯซิตี้ต้องรับผิดชอบเหตุการณ์ที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลื่นล้มในฤดูกาล 2013/14 ด้วยหรือไง
หากใครยังจำกันได้ ซีซั่นดังกล่าวลิเวอร์พูลมาแรงมากๆและมีโอกาสเยอะเลย สำหรับการคว้าแชมป์ลีกครอบครอง แต่จังหวะที่ เจอร์ราร์ด ลื่นล้มจนทำให้พ่ายเชลซี คืออีกหนึ่งตัวแปรทำให้ถูกแมนฯซิตี้ปาดแซงหน้าในที่สุด
เป๊ป ไปยกเอาเรื่องนี้มาตอบคำถาม ซึ่งโดยมารยาทแล้วไม่ควรทำเลย อดีตกัปตันทีมหงส์แดงไปเกี่ยวข้องอะไรด้วยล่ะ
สุดท้ายเมื่อมานั่งคิด นอนคิด ทบทวนสิ่งที่พูดออกไปแล้ว รู้สึกผิดบาปขึ้นมา ก็เลยต้องขอโทษต่อหน้าสาธารณะ ยอมรับเกิดความละอายใจ ไม่ควรเลยที่จะอารมณ์เสีย แล้วประชดประชันด้วยวิธีการเช่นนี้
นั่นแหล่ะที่ทำให้เดาได้ไม่ยากหรอกว่า เป๊ป กำลังอยู่ในช่วงเครียดหนักจริง แม้จะยังไม่มีกำหนดว่าผลการสอบสวนจะแล้วเสร็จเมื่อไร แต่ต้องทำงานด้วยความอึดอัดเช่นนี้ไปอีกนานแน่
นึกภาพคุมทีมไป วิตกกังวลไป มันจะส่งผลกระทบต่อฟอร์มในสนามมากน้อยแค่ไหนกัน?
แล้วพวกนักเตะล่ะ จะห่วงเรื่องอนาคตตัวเองหรือเปล่า ต่อให้ได้รับคำมั่นจากบอร์ด แต่ถามหน่อยว่า มีอะไรมาการันตีได้บ้าง สุดท้ายแมนฯซิตี้จะไม่ผิดจากข้อกล่าวหาจริง
เรื่องนี้ไม่ว่าจะฝ่ายบริหารหรือ เป๊ป ต้องพยายามทำความเข้าใจกับลูกทีม อย่างน้อยอย่าให้ส่งแรงกระแทก ทำให้ผลงานในสนามเสียหายตามไปด้วยอีก
ถึงกระนั้นต้องยอมรับว่า นับตั้งแต่มีข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ฟอร์มของซิตี้กลับไม่ได้แผ่วอย่างที่คาดกัน ตรงกันข้ามบรรดาผู้เล่นดูมุ่งมั่นจริงจังกันไม่น้อย จนสามารถแซงอาร์เซน่อล ดีดตัวเองนำฝูงพรีเมียร์ลีกเรียบร้อย
ปัญหาภายนอกไม่เท่าไหร่ ปัญหาภายในสิของจริง ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
อย่างไรก็ตามยังมีปัญหาอีกเรื่อง รุมเร้าเล่นงานกุนซือสเปน นั่นคือแข้งบางรายชักไม่พอใจกับสถานะปัจจุบัน
ก่อนหน้าตลาดซื้อขายมกราคมปิดตัวไม่นาน เกิดเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ค่ายเรือใบสีฟ้า เพราะปล่อย ชูเอา กานเซโล่ แบ็กคนสำคัญให้บาเยิร์น มิวนิคยืมตัว พร้อมมีอ็อปชั่นซื้อขาด
ไม่เคยมีสัญญาณอะไรส่งมาเลยว่า กานเซโล่ จะต้องมาย้ายทีมในลักษณะนี้ เพราะรู้กันอยู่ว่าคือนักเตะคนสำคัญของ เป๊ป หนึ่งในขุนพลคู่กาย เล่นแบ็กได้หมดทั้งสองฝั่ง ใช้ได้ดีทั้งสองเท้า เกมรุกสุดยอดมาก ตอบสนองแท็คติกดีเยี่ยมอีกต่างหาก
ไม่อย่างนั้น กานเซโล่ คงไม่ได้กลายเป็นฟูลแบ็กเบอร์ 7 หรอก สำหรับสโมสรใหญ่ที่เต็มไปด้วยดาวดังมากมาย ยังไงเบอร์เสื้อก็ต้องมีความหมาย ในอีกทางสามารถบอกบางอย่างได้เลย
เมื่อเป็นอย่างนี้ นักข่าวก็ต้องรู้สึกเอ๊ะด้วยกันทั้งนั้น ผิดสังเกตอย่างชัดเจน เลยไปสืบมาจนรู้ว่า กานเซโล่ ไม่แฮปปี้ที่ต้องตกเป็นสำรองเกือบตลอดนับตั้งแต่กลับจากจบฟุตบอลโลก 2022
10 นัดเป็นตัวจริงแค่ 3 นัดเท่านั้นเอง แถมโดนดาวรุ่งอย่าง รีโก้ ลูอิส ปาดแซงแย่งโควต้าอีก
แม้ทางซิตี้จะปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แต่ก็แค่ตามเชิงเท่านั้น เรื่องราวมันปะติดปะต่อไม่ยากหรอก
หลังโดน กานเซโล่ เขย่าอย่างแรง จนต้องแยกทางใครทางมันแล้ว ล่าสุดยังมีข่าวว่า ฟิล โฟเด้น เด็กสร้างของทีม ก็ไม่ค่อยพอใจด้วย
ช่วงหลังชื่อของ โฟเด้น ตกสำรวจจากตัวจริงแทบตลอด ปักหลักที่ม้าสำรองเรื่อยมา จนเริ่มหวั่นใจอยากจะเคลียร์กับเจ้านายสักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น
ความจริงอันโหดร้ายก็คือ ไม่มีนักเตะเก่งๆคนไหนอยากเป็นตัวสำรองหรอก
แต่ความจริงที่โหดร้ายยิ่งกว่าก็คือ ถ้าคุณมาเล่นให้แมนฯซิตี้ในยุคนี้และมีผู้จัดการทีมมาตรฐานสูง ก็ต้องทำใจเลย ไม่ว่าเจ๋งแค่ไหน ก็นั่งสำรองได้หมด
และความจริงที่โหดร้ายสุดๆก็คือ เป๊ป จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไรกัน เพื่อพาทีมป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นนี้ได้สำเร็จ