โฉมหน้ากำลังพลของเทนฮากฤดูหน้า ด้วยความที่ฟอร์มของแมนฯยูไนเต็ดกำลังเร่าร้อน มีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ฟาด 4 แชมป์ ย่อมทำให้โดนจับตามากยิ่งขึ้นตามกระแส
เอริก เทนฮาก เปรียบเสมือนพระผู้มาโปรดของจริง เพราะใช้เวลาเพียงแค่ 8 เดือน แต่สามารถขจัดปัดเป่า ให้เปลี่ยนจากหลังเป็นหน้ามือ ราวกับคนละทีมเดียวกันเลย
เราเริ่มวาดภาพในอนาคตของแมนฯยูไนเต็ดได้ชัดมากยิ่งขึ้น แนวทางของกุนซือดัตช์เป็นแบบไหน ชอบนักเตะอย่างไร
ขณะเดียวกันประเด็นที่ต้องโฟกัสก็คือ เจ้าของใหม่ของสโมสร ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนเมษายนที่จะถึง
ตามข้อมูลที่ได้มา 2 แคนดิเดตที่มีโอกาสขับเคี่ยวแย่งเทคโอเวอร์กันคือกลุ่มทุนจากกาตาร์ของ ชีค ยัสซิม บิน อาเหม็ด อัล ธานี ลูกชายอดีตนายกรัฐมนตรีกาตาร์และเจ้าของธนาคารขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นตัวเต็งในสายตาแฟนบอลทั่วไป
รวมทั้ง เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีเบอร์ต้นของยูเค ผู้มีใจให้เกมลูกหนังและมีรายงานว่าเป็นแฟนบอลแมนฯยูไนเต็ด
ไม่ว่าใครก็ตามที่จะได้เข้ามาครอบครอง สืบทอดมรดกจากตระกูลเกลเซอร์ เชื่อว่าน่าจะต้องทุ่มงบประมาณสำหรับการเสริมทัพอย่างหนัก เพราะเห็นแล้วว่าปีศาจแดงกลับมาร่างเดิมเหมือนกว่า 10 ปีที่แล้ว
การใช้เงินคงเกิดขึ้นเต็มรูปแบบในตลาดซื้อขายผู้เล่น ซึ่งกระตุ้นให้แฟนๆเกิดความสนใจว่า ตกลงแล้ว ซีซั่นหน้าจะใครเป็นสมาชิกใหม่เดินเข้ามายังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดบ้าง
ตำแหน่งแรกเลยก็คือกองหน้าตัวเป้า ประเภทโป้งปิดบัญชีเล่นเบอร์ 9 ได้แบบไม่เคอะเขิน
ตามข่าวที่เรารู้กันดี 2 ดาวถล่มประตูที่อยู่ในข่ายย้ายมาคือ แฮร์รี่ เคน กับ วิคเตอร์ โอซิมเฮน
ทั้งคู่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป รายแรกได้เก๋า ประสบการณ์ผ่านชั่วโมงบินมาเพียบ รวมถึงไม่ต้องปรับตัวมากด้วย คุ้นเคยกับพรีเมียร์ลีกดีอยู่แล้ว
แต่ก็มีจุดด้อยตรงที่วัยเริ่มโรย อายุการใช้งานช่วงพีกน่าจะไม่เกิน 2 ปีจากนี้ นั่นคือความเสี่ยงที่ทางแมนฯยูไนเต็ดต้องประเมินให้ดี
ส่วน โอซิมเฮน ได้ลูกสด ได้ความห้าว แข็งแกร่งอย่างมาก รวดเร็วปราดเปรียว เด่นทั้งภาคพื้นดินและกลางอากาศ เรียกว่าจังหวะเผด็จศึกครบเครื่องอย่างแท้จริง
ทว่าต้องไม่ลืมข้อสำคัญ เขาไม่เคยเล่นในลีกใหญ่มาก่อน จากลีกเอิงของฝรั่งเศสแล้วฝ่ามากัลโช่ เซเรีย อาเลย ยังต้องบ่มเพาะเคี่ยวกรำกันบ้าง ไม่ถึงขั้นสุกงอมเหมือนอย่าง เคน
ด้วยเรตค่าตัวที่ไม่ต่างกันเท่าไรนัก ต้องวัดใจว่า เทนฮาก จะล็อกเป้าใคร
กองกลางคนไหนจะเข้าตาของ เทนฮาก ในปีหน้า
ตำแหน่งถัดมาคือ มิดฟิลด์ไฮบริดคือเล่นได้ทั้งเบอร์ 6 และ 8 ผสมผสานกันตามฟุตบอลรูปแบบใหม่และ เทนฮาก ก็ชื่นชอบแนวนี้อยู่แล้ว
ว่ากันตามตรงกองกลางมีคลาส เข้าขั้นอินเตอร์หรือเขยิบไปถึงระดับโลก ไม่ได้มีเยอะนัก
แต่หากเอากันที่ตรงสเป็กของกุนซือดัตช์ คงต้องยกให้ เฟร็งกี้ เดอ ย็อง ลูกศิษย์ก้นกุฏิ ร่วมหัวจมท้ายกันตั้งแต่อยู่อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมแล้ว ต่างคนต่างรู้จักกันดี แทบไม่ต้องจูนเพื่อเข้าหากันเลย
ว่ากันว่า เทนฮากน่าจะเป็นคนที่มีคู่มือการใช้งาน เฟร็งกี้ ให้เกิดประโยชน์มากสุดแล้ว โดยเฉพาะวิธีการเล่นในแบบบิลด์อัพและแก้เพรสซิ่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นของกองกลางรายนี้
แต่ถ้ายังพลาด เฟร็งกี้ เหมือนซัมเมอร์ที่แล้วจริงๆ น่าจะมีแผนรองรับปรับหัวเรือไปหาใครสักคนที่คิดว่าเหมาะสมกับแท็คติก
พวกสื่อเชียร์ เดเคลน ไรซ์ ซึ่งพร้อมผละจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ดแล้ว มีสัญญาใจกันตั้งแต่ฤดูร้อนที่แล้ว จะอยู่ช่วยอีกซีซั่น แล้วจะย้ายออก ไปเติบโตและไขว่คว้าความสำเร็จกับสโมสรใหญ่
บางคนกังวลว่าสไตล์ ไรซ์ คล้ายกับ กาเซมีโร่ อาจทับซ้อนกันได้ แต่ความจริงแล้วทั้งสองคน เป็นประเภทไฮบริดคือรุกหรือรับไม่เกี่ยงได้หมด ไม่ใช่ปักหลักในพื้นที่ถนัดอย่างเดียว
ไม่ใช่เรื่องยากเลยหากจะจับเอามายืนด้วยกัน แล้วปรับให้ลงล็อกโป๊ะเชะ นักเตะที่มีความสามารถอย่างนี้ ยิ่งหาสมดุลเจอไม่ยากเลย
ถามว่า 2 ตำแหน่งพอแล้วหรือยัง? คำตอบคือยังไม่น่าจะเพียงพอหรอก หากดูทิศทางและกระแสการเปลี่ยนแปลงของทีม
แต่แข้งใหม่จุดที่ 3 ต้องไตร่ตรองให้รอบด้านด้วย มีหลายตำแหน่งอาจไม่ถึงดีพอ แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรนัก
อย่างแบ็กขวาหากว่า อารอน วาน-บิสซาก้า รักษามาตรฐานได้ดีขึ้น พัฒนาเกมรุกให้มีประสิทธิภาพ ก็ไม่จำเป็นต้องไปหาใครอีก เช่นเดียวกับ ดีโอโก้ ดาโลต์ 2 คนนี้ขาดมาตรฐานที่จำเป็นอยู่
ส่วนผู้รักษาประตูต้องวัดใจ เทนฮากเลยแหล่ะ จะเลือกเก็บ ดาบิด เด เคอา ไว้หรือเปล่า มีสองจุดที่ยังกังขาคือ เรื่องการเปิดบอลด้วยเท้า ที่เป็นปัญหาแก้ไม่ตกทุกวันนี้
รวมทั้งค่าจ้างที่แพงชนเพดาน 375,000 ปอนด์ต่อวีก ต้องลดลงมาถ้ามีการเจรจาสัญญาใหม่ เหลือไม่เกิน 250,000 ปอนด์ ตรงนี้ต้องย้อนไปถามนักเตะว่ารับได้หรือเปล่า
ส่วนผู้เล่ยบางรายที่โยงกันทั้ง ดาบิด รายา นายด่านของเบรนท์ฟอร์ดหรือ เมสัน เมาท์ ที่ยังไม่เคลียร์กับเชลซี ล้วนแต่ต้องติดตามกันให้ดี
กำลังพลของแมนฯยูไนเต็ด จะถูกแปลงโฉมและจัดระเบียบกันอย่างไรเพื่อใเข้ารูปเข้ารอย ซีซั่นหน้าคิดแล้วน่าตื่นเต้นแทน
ทั้งเงินและบารมีของ เทนฮากรวมถึงพัฒนาการของสโมสรในช่วงไม่กี่เดือน ล้วนแต่เป็นแรงดึงดูดอย่างดีทั้งสิ้น