โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพิ่งโชว์ฟอร์มสุดสะเด่ากับแผนของ ดอร์ทมุนด์ 4-2-3-1 บุกไปขย่มเซบีย่าถึง 4-1 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
ภายใต้การคุมบังเหียนของ แอร์ดิน แทร์ซิช ซึ่งมีรายชื่อผู้เล่น เกรกอร์ โคเบล – ยูเลี่ยน บรันด์ท – นิคลาส ซือเล่ – มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ – จู๊ด เบลลิงแฮม คาริม อเดเยมี่ – ซาลีห์ เอิซชาน – เซบาสเตียง อัลแลร์ – อ็องโตนี่ โมแดสต์ – มาเตว์ โมเรย์
นอกจากผลลัพธ์ที่น่าประทับใจแล้ว ผลงานส่วนตัวของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ซึ่งเคยร่วมเล่นกับดาวยิงนอร์เวย์อย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ก็เป็นที่ปลาบปลื้มเช่นเดียวกัน กองกลางวัย 19 ปียังคว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์มาครองสำเร็จด้วย
เขายิง 1 แอสซิสต์ 1 พาทีมเก็บ 3 แต้มสำคัญ เพิ่มโอกาสเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ พร้อมทั้งพาตัวเองก้าวไปสู่จุดที่เรียกว่าเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างเต็มตัว
เกมดังกล่าว จู๊ด โชว์ให้เห็นความสุขุมเยือกเย็นเกินวัย แทบไม่มีอาการลนลานเลยสักนิด เป็นเหมือนผู้บัญชาการแดนกลาง กล้าหาญชาญชัยเหมือนผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยว่าทำไมดอร์ทมุนด์ ถึงขวางอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้ทีมใหญ่ในยุโรปเข้ามาวุ่นวาย เลยแขวนป้ายไว้ที่ 150 ล้านยูโร อยากได้จริงก็จ่ายมาเลย
แมนออฟเดอะแมตช์ เกมทีมชาติอังกฤษ 1 แอสซิสต์ 1 ประตู
นอกจากยอดเยี่ยมในสีเสื้อสโมสรแล้ว ยามรับใช้ทีมชาติอังกฤษ ผลงานก็อยู่ในระนาบใกล้เคียงกัน อย่างเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกเสมอเยอรมัน 4-4 จู๊ด เองก็ผงาดครองแมนออฟเดอะแมตช์ เพราะเป็นคีย์แมนในแผงมิดฟิลด์อย่างแท้จริง
ไม่ว่าเกมรุกหรือรับ เขามีบทบาทอย่างชัดเจน แทบไม่มีใครกังขาอีกต่อไปแล้ว หลังเคยมีเสียงวิจารณ์ว่าโดนยกย่องเกินจริง เพราะเป็นนักเตะอังกฤษ สื่อก็เลยมักโหมประโคมกันใหญ่
งงกันทั้งบาง ดอร์ทมุนด์ ทุ่ม 25 ล้าน เพื่อเด็กวัย 17 ปีจากแชมเปี้ยนชิพ
ย้อนไปในฤดูร้อน 2020 หรือ 2 ปีที่แล้ว ดอร์ทมุนด์ ทำเซอร์ไพรส์จ่ายเงิน 25 ล้านปอนด์ เพื่อแลกกับเด็กหนุ่มวัย 17 ปี ซึ่งมีประสบการณ์แค่เล่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพกับเบอร์มิ่งแฮม
แฟนๆไม่เข้าใจว่า ทำไมสโมสรจึงจ่ายบ้าเลือดขนาดนั้น เด็กคนนี้เจ๋งจนต้องยอมแย่งกับแมนฯยูไนเต็ดเลยหรือ
จู๊ด รับใช้เบอร์มิ่งแฮมทั้งสิ้น 44 เกม เป็นที่โจษจันในเรื่องความสามารถและศักยภาพที่โดดเด่นเกินอายุ พัฒนาการแบบพุ่งพรวดจากทีมเยาวชน ส่งให้เขาถูกจับตามองมากยิ่งขึ้น
ตอนเบอร์มิ่งแฮมขายให้ดอร์ทมุนด์ แล้วทำในสิ่งที่คาดไม่ถึงนั่นคือรีไทร์เสื้อเบอร์ 22 เป็นการให้เกียรติ จะไม่มีนักเตะคนไหนได้ใส่เบอร์นี้อีก เล่นเอาเสียงก่นด่าดังเกรียวกราว
ฝ่ายบริหารโดนด่ายับ
นี่มันโอเวอร์เกินไปหน่อยแล้ว เด็กอายุแค่ 17 เล่นให้ทีมไม่ถึง 50 นัด มันจะไปยกย่องเทียบเท่าตำนานได้อย่างไรล่ะ ทำอะไรลองมองถึงความเหมาะสมกันหน่อยสิ ไม่อย่างนั้นใครก็เป็นได้หมดแหล่ะ
บางคนตำหนิฝ่ายบริหารของเบอร์มิ่งแฮม คงหิวเงินจนหน้ามืด เพราะขาย จู๊ด ได้มากถึง 25 ล้านปอนด์ เลยสดุดีไอ้หนูมันแบบเกินจริง
บทความที่เกี่ยวข้อง “เชลซี โฉมใหม่ไฉไลจริงหรือ?” จาก อบราโมวิช สู่ ท็อดด์ โบห์ลี
เข้าใจว่าช่วงดังกล่าวสโมสรเองประสบปัญหาการเงินอย่างหนัก จากโควิดระบาด สภาพคล่องแทบเป็นศูนย์ ฉะนั้นได้เงินก้อนนี้มาจึงเหมือนสวรรค์โปรด ก็เลยอุ้มชูบูชา จู๊ด อย่างที่เห็น
แต่พอมาถึงตรงนี้เริ่มเข้าใจกันแล้ว ไม่มีใครคิดติเตียนเบอร์มิ่งแฮมอีก บางทีการรีไทร์เบอร์เสื้อให้กับนักเตะวัยแค่ 17 ปี อาจกลายเป็นเรื่องเล่าที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตก็เป็นได้
เพราะแค่ 19 ปี เขายังทำผลงานได้ร้อนแรงขนาดนี้ หากมีการย้ายทีมเกิดขึ้นในปีหน้าจริง มีโอกาสสูงจะยึดสถิติผู้เล่นอายุ 20 ปีที่ค่าตัวแพงสุดก็เป็นได้
ตำนานผีแดง คีน ยก เบลลิงแฮม เล่นได้ทุกที่ในแดนกลาง
เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้วหรือเกือบๆปีนี่แหล่ะ รอย คีน เคยออกมาแสดงความคิดเห็นชื่นชม จู๊ด จนหลายคนอดแปลกใจไม่ได้ เพราะปกติเวลารับบทวิเคราะห์เกมทางสกาย สปอร์ตส์ จะกรีดใส่จนเลือดซิบๆ ยากที่จะหลุดปากยกย่องใครสักคนง่ายๆ
“เขาใส่เบอร์ 22 เพราะเขาเล่นในตำแหน่งเบอร์ 10 , เบอร์ 8 และเบอร์ 4 มันเป็นความจริง เขาเล่นทุกพื้นที่ในแดนกลาง”
คีน คอนเมนต์ไว้ในลักษณะนี้ สะท้อนดีว่า จู๊ด ครบเครื่องขนาดไหน เลือกมาเลยตรงกลางจะรุกหรือรับสบายมาก รวมถึงให้เล่นแบบลูกผสม ซึ่งเรามักเรียกกันว่าไฮบริดคือ 2 ระบบก็ไร้ปัญหา
อาจเพราะ คีน เป็นมิดฟิลด์มาก่อน แถมเข้าขั้นตำนานของพรีเมียร์ลีกและแมนฯยูไนเต็ด จึงมองแบบทะลุปรุโปร่ง เห็นเด็กคนนี้ฉายแววก็อดหวานออกสื่อไม่ได้ ทั้งที่ปกติไม่ค่อยทำ
เตรียมยึดตัวจริงทีมชาติอังกฤษ
ขณะเดียวกันคาดว่าจากปัญหาอาการบาดเจ็บของ คัลวิน ฟิลลิปส์ อาจส่งให้ จู๊ด ยึดตำแหน่งตัวจริงทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 2022 อย่างเต็มตัว โดยน่าจะยืนร่วมกับ เดแคลน ไรซ์ เหมือนในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกล่าสุด
สมมุติว่าเขาโชว์ฟอร์มกระหึ่มในเวิลด์คัพ แล้วกลับมาเล่นในสโมสรยังรักษาระดับมาตรฐานได้ รับประกันได้เลยว่าเมื่อตลาดซัมเมอร์มาถึง ดอร์ทมุนด์คงไม่คิดขายแค่ในราคา 150 ล้านยูโร มันอาจจะพุ่งมากกว่านั้นอีก
หัวกะไดดอร์ทมุนด์จะไม่แห้งแน่นอน ยักษ์ใหญ่ในยุโรปทั้งหลายจะมาต่อคิวรอเคาะประตูบ้าน ถามไถ่ค่าสินสอดและเงื่อนไขกันจ้าละหวั่น
บาเยิร์น มิวนิค , บาร์เซโลน่า , เรอัล มาดริด , เชลซี , แมนฯยูไนเต็ด , แมนฯซิติ้และลิเวอร์พูล ล้วนแต่อยู่ในข่ายทั้งสิ้น
ชื่อของท็อปทีมที่ว่า เคยตกเป็นข่าวโยงกับ จู๊ด ซึ่งไม่ง่ายเลยที่นักเตะวัยแค่ 19 จะได้รับความสนใจจากทีมชั้นนำอย่างที่เห็น
ไม่รู้ว่าตัวเขามีชอยส์ไว้ในใจหรือยัง ถ้ามีจะเป็นทีมไหน อันนี้หลายคนต่างอยากรู้คำตอบ แต่คงไม่ถูกเฉลยในเร็ววันนี้หรอก
ค่าตัว จู๊ด เบลลิงแฮม อาจจะทำลายสถิติ นักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก
อีกคำถามก็คือค่าตัวจะไปถึงกี่ร้อยล้านยูโร ตัวเลขจะมหาศาลแน่นอน ใครอยากได้ต้องจ่ายมาเท่านั้น นักเตะคนนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับสโมสรเบี้ยน้อยหอยน้อย
เขาจะตัดสินใจกลับมาเล่นในอังกฤษหรือไปหาความท้าทายในต่างแดน เหมือนตอนเลือกโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์อย่างเซอร์ไพรส์ คิดแล้วอดตื่นเต้นไม่ได้
เงินอาจไม่ใช่เป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับ จู๊ด แต่ยังมีเรื่องของโปรเจคต์ของแต่ละสโมสรมาเกี่ยวข้องด้วย
ทีมไหนมีนโยบายที่สอดคล้องกับความต้องการ บวกด้วยยินดีจ่ายทั้งค่าจ้างและค่าตัวอันงดงาม ก็เตรียมตัวอ้าแขนรอได้เลย
แต่ไม่แน่เหมือนกัน เราอาจได้คำตอบเร็วกว่าที่คาดไว้ก็เป็นได้
