Home ข่าวหวย หลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์ วัดหนองกระดี่ อุทัยธานี ขอแล้วได้

หลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์ วัดหนองกระดี่ อุทัยธานี ขอแล้วได้

0
109

พลวงพ่อเคลือบ ขอแล้วได้จริง!!

หลวงพ่อเคลือบ วันที่ 13 กันยายน 2565 ที่วัดหนองกระดี่ ตำบลหนองยายดา อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ผู้คนแห่ไปร่วมงานแก้บนครั้งใหญ่จนแน่นวัด เพราะมีข่าวว่า

หลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์ วัดหนองกระดี่ เมืองอุทัยธานี
หลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์ วัดหนองกระดี่ เมืองอุทัยธานี

หญิงสาวจากเมืองราชบุรีจะขนหัวหมู 200 หัว ไก่ต้ม เหล้าขาว มาแก้บน หลวงพ่อเคลือบวาจาสิทธิ์ พระเกจิชื่อดังของเมืองอุทัยธานี พระผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง

ได้แล้วได้อีก จนเป็นข่าวดัง

หญิงสาวชาวราชบุรี บอกว่า ขายที่ดินได้เงินก้อนโตจึงมาแก้บนกับหลวงพ่อเคลือบ ด้วยหัวหมู 200 หัว การมาแก้บนครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก

เพราะเมื่อปี 2564 ก็เอาหัวหมูมาแก้บนหลวงพ่อเคลือบ 100 หัวมาแล้ว แก้บนจากการขายที่ดินได้เช่นกัน เรื่องนี้เป็นข่าวออกสื่อหลายสำนัก มีการบอกด้วยว่า

บนบาน หลวงพ่อเคลือบ แล้วได้ จนเป็นข่าวดัง คนเอาหัวหมูมาแก้บน 100 หัว
แก้บนหลวงพ่อเคลือบ ด้วยหัวหมู กว่า 100 หัว

ชาวบ้านที่มาร่วมงานอนุโมทนาบุญด้วย ก็พากันไปกราบไหว้ขอพร ขอหวย huay จากหลวงพ่อเคลือบ แล้วก็แอบส่องเลขทะเบียนรถยนต์ของหญิงสาวผู้โชคดีจากราชบุรี เพื่อจะเอาไป เล่นหวย huay งวดวันที่ 16 กันยายน 2565

เฮงจัด ถูกหวย!! 3 ตัวตรง ออกเลขทะเบียนรถ

ปรากฏว่า เลขท้ายรางวัลที่ 16 กันยายน 2565 นั้น ออก 703 ตรงกับเลขทะเบียนรถขนหัวหมูมาแก้บนพอดี ก็น่าจะมีคนกลับไปแก้บนหลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์ กันอีกแน่นอน

ทะเบียนรถ 9730

ทะเบียนรถ 9730 ปรากฏว่า เลขท้ายรางวัลที่ 16 กันยายน 2565 นั้น ออก 703
หวยไทย งวด 16 กันยายน 65 ออกทะเบียนรถ 703

หญิงสาวจากราชบุรี บอกว่า เพื่อนเป็นคนแนะนำให้มาขอพรกับหลวงพ่อเคลือบ ที่วัดหนองกระดี่ แล้วจะสำเร็จ ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้น

ประวัติ หลวงพ่อเคลือบ-วาจาสิทธิ์

ท่านเป็นคนอุทัยธานีโดยกำเนิด หนังสือประวัติหลวงพ่อที่แจกจ่ายในงานเททองรูปหล่อเหมือนของหลวงพ่อระบุว่า

ประวัติ หลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์
ประวัติ หลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์

ท่านเกิดเมื่อปี 2432 ที่บ้านคลองชะโด ตำบนทุ่งใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ท่านอุปสมบทปี 2453 ที่วัดหนองเต่า ตำบลโนนเหล็ก อำเภอเมือง อุทัยธานี มีพระครูธรรมวินิฐ (หลวงพ่อสิน) เป็นพระอุปัชฌาย์

หลวงพ่อสิน พระอาจารย์ท่านแรก

ท่านก็ได้ หลวงพ่อสิน ถ่ายทอดวิชาอาคมให้ ทั้งวิชาวาจาสิทธิ์ อาคมคงกระพันชาตรี จนครบ 3 พรรษา หลวงพ่อสิน ท่านก็บอกว่า หากต้องการให้วิชาอาคมแก่กล้ากว่านี้ ต้องไปเรียนกรรมฐาน ฝึกสมาธิกำหนดจิต

หลวงพ่อสิน พระอาจารย์ท่านแรก
หลวงพ่อสิน พระอาจารย์ท่านแรก

และแนะนำให้หลวงพ่อเคลือบไปเรียนกับพระเกจิ ที่เมืองลพบุรี หลวงพ่อเคลือบก็กราบลาพระอาจารย์ เดินทางไปเมืองลพบุรี พร้อมกับพระอีก 3 รูป

มีการสันนิษฐานว่า หลวงพ่อเคลือบไปกราบหลวงพ่อวัดเขาสาลิกา ซึ่งท่านมีชื่อเสียงเป็นที่เลืองลือว่าแก่กล้าวิชา “กสินไฟ” ขอฝากตัวเป็นศิษย์ ร่ำเรียนวิชากสินไฟ

ปฏิญาณตน กรรมฐาน บวชตลอดชีวิต

หลวงพ่อวัดเขาสาลิกา ท่านถามว่า จะลาสิกขาหรือเปล่า ถ้าลาสิกขา จะไม่สอนให้ แต่ถ้าไม่ลาสิกขา ก็จะสอน หลวงพ่อเคลือบก็ปฏิญาณตนแน่วแน่ว่า จะไม่ลาสิกขา จะขอบวชไปตลอดชีวิต

หลวงพ่อเคลือบ ที่ปฏิญาณตนแน่วแน่ว่า จะไม่ลาสิกขา จะขอบวชไปตลอดชีวิต
หลวงพ่อเคลือบ ที่ปฏิญาณตนแน่วแน่ว่า จะไม่ลาสิกขา จะขอบวชไปตลอดชีวิต

หลวงพ่อวัดเขาสาลิกา จึงถ่ายทอดวิชาอาคมให้ ส่วนพระอีก 3 รูป ที่เดินทางไปด้วยกัน ไม่ได้ถูกถ่ายทอดวิชาอาคม เนื่องจากไม่รับปากว่าจะบวชตลอดชีวิต

หลวงพ่อเคลือบได้เรียนวิชากรรมฐาน ทำสมาธิ จนกำหนดจิตเป็นหนึ่งเดียว เรียนวิชากสินไฟ แล้วยังเรียนรู้อักระขอม ลงเลขยันต์ เพิ่มเติมจากหลวงพ่อกบ อีก รวมแล้ว หลวงพ่อเคลือบท่านได้มาศึกษาวิชาอาคมนานถึง 6 ปี

“ถ้าข้าอยู่ ใครก็มาอยู่ไม่ได้”

จากนั้น หลวงพ่อเคลือบก็กราบลาพระอาจารย์ ไปธุดงค์ขึ้นไปทางเหนืออีกหลายปี ก่อนจะธุดงค์กลับมาเมืองอุทัยธานี มาจำวัดอยู่ที่วัดหนองเต่า

หลวงพ่อเคลือบ ได้พูดขึ้นมาคำหนึ่งว่า "ถ้าข้าอยู่ ใครก็มาอยู่ไม่ได้
ถ้าข้าอยู่ ใครก็มาอยู่ไม่ได้

แต่ก็จำวัดได้ไม่นานนัก ญาติโยมก็นิมนต์ท่านไปจำวัดที่วัดหนองหญ้ายาง ที่วัดแห่งนี้ หลวงพ่อเคลือบได้สร้างพระอุโบสถ ขึ้น แต่ยังไม่ทันเสร็จก็มีปัญหากับมัคทายกวัด

ว่ากันว่าหลวงพ่อเคลือบ ได้พูดขึ้นมาคำหนึ่งว่า “ถ้าข้าอยู่ ใครก็มาอยู่ไม่ได้” ก็เลยแทบไม่มีพระมาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้

มรณะภาพ ปี 2497

หลังจากนั้น หลวงพ่อเคลือบก็ย้ายไปจำพรรษาที่วัดหนองเต่า แต่ที่วัดหนองแกขาดพระจำพรรษา หลวงพ่อเคลือบ ก็เลยไปจำพรรษาที่วัดหนองแก จนครบพรรษา

แล้วถึงได้ย้ายไปที่วัดทัพทัน อยู่วัดทัพทัน 3 พรรษา ทางวัดหนองกระดี่ไม่มีเจ้าอาวาส ญาติโยมได้มานิมนต์หลวงพ่อเคลือบให้ไปเป็นเจ้าอาวาส ท่านก็ไป

หลวงพ่อเคลือบ มรณะภาพในปี 2497 ด้วยโรค โรคริดสีดวง
หลวงพ่อเคลือบ มรณะภาพในปี 2497

หลวงพ่อเคลือบอยู่ที่วัดหนองกระดี่ จนมรณภาพในที่ 2497 หลวงพ่อเคลือบเป็นโรคริดสีดวง ต้องฉันยาเพื่อรักษาอาการ

แต่ยานั้นต้องใช้เหล้ามาเป็นกระสัยยา ก็เลยมักจะมีปัญหากับชาวบ้าน แต่ทางเจ้าคณะจังหวัดทราบปัญหานี้ดี ก็สั่งไม่ให้ใครเข้าไปยุ่ง

การบนบาน

อีกทั้งหลวงพ่อเคลือบเอง ก็มีความรู้ความสามารถ แก่กล้าวิชาอาคม มีวาจาสิทธิ์ ชาวบ้านจะ บนบานศาลกล่าวด้วยธูป 3 ดอก หรือบางครั้งก็ขอปากเปล่า ก็ยังประสบความสำเร็จ เพียงแค่ให้ชัดเจนว่าจะขออะไร จะแก้บนด้วยอะไร

สำหรับชาวเมืองอุทัยธานี และจังหวัดใกล้เคียงการบนบานหลวงพ่อเคลือบนั้น แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ของหายก็ขอ ฝนน้อยก็ขอ ฝนมากก็ขอ การเดินทาง โชคลาภ ค้าขาย สอบเข้าราชการ ส่วนใหญ่ก็จะสมหวัง

บทความที่เกี่ยวข้อง
อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่น่าขอหวย บูชาไอ้ไข่ วัดเจดีย์ และ คาถา ขอหวย

วัตถุมงคล หลวงพ่อเคลือบ

ส่วนเรื่องวัตถุมงคลนั้น ตรงๆ จากหลวงพ่อเคลือบ เท่าที่ตามหากัน น่าจะมีแค่ ตระกรุด ที่ทำจากบาตรพระ กับรูปถ่ายหลวงพ่อ นอกนั้นเป็นของแต่ละวัด ที่หลวงพ่อเคลือบเคยไปจำพรรษาจัดสร้างขึ้นเอง

วัตถุมงคล หลวงพ่อเคลือบ
วัตถุมงคลหลวงพ่อเคลือบ

แต่ก็มีคนบอกว่า ไม่ว่าจะมาจากวัดไหนแบบใด ถ้าจะขอก็ให้ตั้งจิตอธิษฐานขอจากหลวงพ่อ ต้องขอให้เอ่ยชื่อหลวงพ่อ ชื่อวัด และจังหวัดให้ถูก แค่นี้หลวงพ่อเคลือบก็จะมาอนุเคราะห์ญาติโยมทุกคนแล้ว

การแก้บน

ส่วนเรื่องแก้บน ท่านขอให้ทำอย่างจริงใจ จะให้อะไรให้ชัดเจน จำนวนเท่าไหร่ ก็นำมาแก้ตามสัญญา แล้วก็ต้องรอจนกว่าธูปจะหมดดอก

การแก้บนหลวงพ่อเคลือบ
การแก้บนหลวงพ่อเคลือบ

มีคนเล่าว่า หลวงพ่อเคยพูดว่า “กูยังไม่ทันจะนั่งเลย มันเสสังฯ แล้ว” ส่วนของแก้บนนั้น หากเป็นของกินของใช้ ทางวัดพร้อมจัดไปทำทานให้ต่อ แต่ถ้าเป็นเหล้าเบียร์ก็เอากลับไปได้

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here