สัญญาของ ลิโอเนล เมสซี่ กับปารีส แซงต์ แชร์กแมงจะหมดลงในซัมเมอร์ 2023 หรืออีกราว 8 เดือนเท่านั้นเอง
ว่ากันตามแนวโน้มแล้วทางผู้บริหารเปแอสเช คงต้องการจับมัดให้อยู่กับทีมต่อ ยินดียื่นสัญญาฉบับใหม่ ด้วยเงื่อนไขในเรตใกล้เคียงของปัจจุบันให้
เพราะ เมสซี่เค้นฟอร์มเก่งกลับมาได้สำเร็จในฤดูกาลนี้ ล่าสุดก่อนลงหวดยูเวนตุสในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ลงเล่นทั้งสิ้น 17 เกม ยิงไป 12 ประตูกับอีก 13 แอสเซิสต์
เทียบกับฤดูกาลก่อน แล้วเห็นความแตกต่างชัดแจ้งแดงแจ๋ 34 นัด 11 ประตู 15 แอสซิสต์ ดูเหมือนว่าดาวเตะอาร์เจนไตน์จะกลับมาเข้าฝักชักดาบฟันไม่พลาดเป้าอีกครั้งแล้ว
ซีซั่นนี้เพิ่งเดินทางมาแค่ 1 ใน 3 เท่านั้นเอง เชื่อว่าตัวเลขต่างๆจะมียอดเพิ่มอีกแน่นอน หากไม่ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บหรือติดขัดเรื่องที่ไม่อาจควบคุมได้ซะก่อน
มันเป็นธรรมดาที่ทางเปแอสเชอยากจะรั้งตัวไว้ ไม่ใช่แค่ผลงานในสนามอย่างเดียว แต่สำหรับ เมสซี่มีอิทธิพลในห้องแต่งตัว เป็นที่ยอมรับนับถือของเพื่อนร่วมทีม แทบจะเป็นศูนย์กลางได้เลย
อย่างไรก็ตามหากจับกระแสจากสถานการณ์ล่าสุด ยากที่จะฟันธงเปรี้ยงไม่เสี่ยงหน้าแตกว่า เขาจะอยู่หรือย้ายในรูปแบบฟรีเอเจ้นท์ ทุกอย่างยังดูคลุมเครือมาก
แต่ก็มีข่าวในเชิงว่า เมสซี่ ไม่น่าจะปักหลักอีกแล้ว 2 ปีเพียงพอสำหรับประสบการณ์ใหม่ ต่อให้มีเงินก้อนใหญ่มาประเคนให้ก็ไม่สน ทุกวันนี้มีมากมายก่ายกองแล้ว ค่าจ้างจึงไม่ใช่ประเด็นหลัก
ลิโอเนล เมสซี่ ความหวังของแฟนบอลบาร์เซโลน่า
อีกด้านหนึ่งแฟนบอลบาร์เซโลน่า ก็เชื่อมั่นว่าไอดอลของพวกเขา วางแผนไว้จะหวนคืนสู่ถิ่นเก่า หากไม่เพราะความผิดพลาดเรื่องการเงิน จนไม่สามารถลงทะเบียนได้ ไม่มีทางหรอกว่าจะย้ายไปปารีส แซงต์ แชร์กแมง
สถานการณ์เวลานั้นนิ่งมากแล้ว โจน ลาปอร์ต้า ได้รับเลือกให้กลับมานั่งเก้าอี้ประธานสโมสรอีกรอบ แทนที่ โจเซป บาร์โตเมว ซึ่งบริหารงานย่ำแย่ จนเข้าขั้นวิกฤตการเงิน ยากจะเยียวยากันง่ายๆ
ไม่ว่าอย่างไร เมสซี่ ก็มีใจให้บาร์ซ่าแบบเต็มๆไม่เม้มเลย นี่คือสโมสรที่ย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ตั้งแต่ 13 ขวบ พัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์และขวัญใจเบอร์หนึ่งอย่างยาวนานนับสิบปี
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ของ เมสซี่ กับ ลาปอร์ต้า บิ๊กบอสคนปัจจุบันก็สนิทสนมกลมเกลียวเลยทีเดียว ไม่น่าจะมีปัญหาหากต้องหวนมาร่วมงานกัน
รวมทั้ง ชาบี เอร์นานเดซ กุนซือคนปัจจุบันก็เป็นหนึ่งในปัจจัยหลัก ช่วยดึงดูดให้ เมสซี่ รีเทิร์นอย่างไม่ยาก สองคนนี้ซี้ปึ้กกันตั้งแต่เป็นนักเตะ กอดคอฝ่าอุปสรรคจนประสบความสำเร็จนับไม่ถ้วน
กระแสข่าวอย่างไม่เป็นทางการ
อย่างไรก็ตามมีกระแสว่า เมสซี่ อาจไม่หันหัวเรือย้อนกลับบาร์เซโลน่า แต่ว่าเบนไปยังสหรัฐอเมริกาที่ไมอามี่แทน
ที่นั่น เดวิด เบ็คแฮม เจ้าของร่วมสโมสรอินเตอร์ ไมอามี่ พร้อมรองรับอย่างสมเกียรติ หากว่ายอมย้ายมาร่วมก๊วนจริง รับรองเลยว่าจะสร้างความเกรียวกราวและแรงกระเพื่อม ให้เกิดความตื่นตัวในวงการลูกหนังมะกันมากยิ่งขึ้นอีก
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องยากหรือไม่ก็แค่ข่าวประเภทกอสปซิบธรรมดาทั่วไป ไม่เห็นต้องตื่นตูมเนื้อเต้นอะไรกันนักเลย
แต่ความน่าสนใจมันอยู่ที่ ต้นขั้วของข่าวมาจาก เดวิด ออร์นสตีน นักข่าวคนดังแห่งค่ายดิ แอธเลติก ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องข้อมูลระดับเอ็กซ์คลูซีฟที่แน่นปึ้ก ไม่ใช่โคมลอยเหมือนสื่ออีกหลายสำนัก
ออร์สตีน อ้างว่าตอนนี้อินเตอร์ ไมอามี่ เริ่มรุกคืบหา เมสซี่ มีการพูดคุยกันบ้างแล้ว ถึงความเป็นไปได้จะเกิดดีลนี้ขึ้น แม้จะยังไม่มีการคอนเฟิร์มก็ตาม ยังอยู่ในขั้นตอนทั้งหมด เวลายังเหลืออีกพอสมควรกว่าเดือนมกราคมจะมาถึง
หลายคนอาจสงสัยว่า สโมสรที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2018 หรือ 4 ปีก่อน จะมีงบประมาณมากพอสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายดีลนี้หรือ ค่าตัวอาจฟรีก็จริง แต่ค่าจ้างมหาศาลแน่ รวมทั้งต้องมีรายละเอียดยิบย่อยอีก
แต่เจ้าของทีมไม่ใช่มีแค่ เบ็คแฮม เพียงลำพัง คนที่เป็นกระเป๋าเงินคือ ฮอร์เก้ มาส ซานโต๊ส บิลเลี่ยนแนร์หรือนักธุรกิจใหญ่ที่พื้นเพเป็นชาวไมอามี่ รวมทั้งเป็นประธานของ MasTec บริษัทก่อสร้างชื่อดัง คาดว่าทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
เรื่องเงินคงไม่ใช่ปัญใหญ่นักหรอก เพราะยังต้องไม่ลืมว่า หากต้องการก้อนโตจริงๆ บารมีและชื่อเสียงของ เบ็คแฮม เปิดระดมทุนคงไม่ใช่อุปสรรคเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง ใครบ้างจะแทน เมสซี่ ที่ปารีส?
อินเตอร์ ไมอามี่ กำลังยกระดับทีมแบบก้าวกระโดด
พวกเขาพยายามสร้างทีมขึ้นแบบก้าวกระโดด เอาแบบไม่ต้องใช้เวลาเนิ่นนานเกิน ดังนั้นเลยจัดการดึงเอาทั้งกุนซือและผู้เล่นพอมีดีกรีจากยุโรปมาไม่น้อย
ฟิล เนวิลล์ หนึ่งในตำนานคลาส ออฟ 92 ของแมนฯยูไนเต็ด ซึ่งประสบความสำเร็จพอตัวในการคุมทีมหญิงของอังกฤษ ถูกดึงมาเป็นกุนซือ
นอกจากนี้ยังมี เดอันเดร เยดลิน และ คีแรน กิ๊บบ์ส 2 กองหลังที่ผ่านประสบการณ์เวทีพรีเมียร์ลีกมาแล้ว
ผู้บริหารอินเตอร์ ไมอามี่มีโปรเจคต์ใหญ่วางเอาไว้เรียบร้อย คือการยกระดับสโมสรให้ก้าวสู่ความเป็นมหาอำนาจเมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ ไม่ได้สร้างทีมมาเล่นๆ หวังเป็นงานอดิเรกหรอก
เชื่อว่าหากสองฝ่ายมีการคุยกันบ้างแล้ว โปรเจคต์ของทีมที่ว่านี่แหล่ะ จะเป็นสิ่งโน้มน้าวให้ เมสซี่ ทำเซอร์ไพรส์มาแสวงหาความท้าทายใหม่ ในบั้นปลายของการค้าแข้ง
งานนี้ต้องมาดูพลังและบารมีของ เดวิด เบ็คแฮม กันสักหน่อย เพราะคงต้องออกหน้าตัวเอง ขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ เพราะหากได้ เมสซี่ มาจริงๆ รับรองถนนทุกสายจะมุ่งสู่อินเตอร์ ไมอามี่ไม่ต้องสงสัยเลย
มันอาจจะเป็นเรื่องไกลตัว เวลายังเหลืออีกพอสมควร แต่อย่าลืมว่ามกราคมมาถึงเมื่อไร ปฏิทินเปลี่ยนปีเรียบร้อย เมสซี่ จะเจรจากับทีมที่เข้ามาหาได้อย่างอิสระเสรี ไม่มีผิดกฏหรือมารยาททั้งสิ้น
บางทีเราอาจได้เห็นเรื่องเซอร์ไพรส์ในฤดูร้อนที่จะถึงนี้ก็ได้
