แผนสองชั้นของทีม ผีแดง ในวันที่ไม่ได้เงินซื้อ

ก่อนตลาดมกราคมจะเปิดทำการ บรรดาแฟนบอล ผีแดง หรือ แมนฯยูไนเต็ด คาดหวังไว้พอสมควรจะได้เห็นแข้งใหม่เข้ามาเสริมประสิทธิภาพให้แกร่งยิ่งขึ้น

อย่างน้อยที่สุดการจากไปของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จำต้องหาตัวแทนที่เหมาะสม ไม่อย่างนั้นหมายความว่าจะขาดกองหน้าอาชีพ ยืนตำแหน่งเบอร์ 9 โป้งปิดบัญชี

แต่สัญญาณเตือนที่ไม่ค่อยดี มาตั้งแต่ช่วงก่อนฟุตบอลโลกจะเปิดฉากซะอีก มีข่าวในทำนองว่า ผู้บริหารของสโมสรนำโดย ริชาร์ด อาร์โนลด์ ซีอีโอคนปัจจุบันและ จอห์น เมอร์เท่อห์ ผู้อำนวยการกีฬา ขอให้น้ำหนักกับตลาดซัมเมอร์ 2023

ตลาดมกราคมอาจเสริมทัพบ้าง แต่จะไม่ใช่เป็นการลงทุนแบบบ้าคลั่งอลังการ ใช้เงินก้อนใหญ่โปรยลงไปอีก เพราะหน้าร้อนทุบคลังไปถึง 220 ล้านปอนด์ สูงพออยู่แล้ว

ตอนแรกไม่แน่ในว่าข่าวนี้มีความเท็จจริงมากขนาดไหน กระทั่งได้เห็นแล้วว่า โคดี้ กัคโป ซึ่งเคยตกเป็นเป้าหมายแมนฯยูไนเต็ดมานาน โดนลิเวอร์พูลปาดหน้าคว้าชิ้นปลามันไปครอบครอง

ค่าตัวไม่ได้แพงเกินเลยความจริง ตกประมาณ 37 ล้านปอนด์ บวกแอดออนส์ตามผลงาน ถือว่าเข้าถึงหรือจับต้องได้เลย

เมื่อแผนชั้นแรกของทีม ผีแดง ไม่สำเร็จ

ทว่าในเมื่อบอร์ดบริหารไม่อนุมัติงบและทางหงส์แดงพร้อมลุยอย่างเต็มที่ เอริก เทนฮาก ก็เลยต้องจำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น

บางคนอาจบอกว่านี่ไม่ใช่ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าที่ต้องการหรอก ดังนั้นเลยต้องปล่อยให้ทีมอื่นเซ็นกันไป

อย่างไรก็ตามต้องไม่ลืมว่า กัคโป ได้รับการติดต่อจากแมนฯยูไนเต็ดมาตั้งแต่ซัมเมอร์แล้ว ตัวเขายอมรับว่าจวนเจียนได้ย้ายมา แต่ดีลล่มในโค้งสุดท้ายของตลาด เลยต้องอยู่พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นเช่นเดิม

ขณะเดียวกันข่าวโยงกันก็มีมาต่อเนื่อง ยิ่งหลังจบเวิลด์ คัพด้วยแล้ว ไหลมาไม่ขาดสาย จนเชื่อว่าต้องได้มาชูเสื้อปีศาจแดง

เมื่อสถานการณ์พลิกผัน มันก็ต้องมาวิเคราะห์กันว่าเกิดจากอะไร ส่วนหนึ่งคือเรื่องเงินอย่างที่บอกไว้นั่นแหล่ะ

ถ้าไม่ได้งบมากพอสำหรับการเติมให้ขุมกำลังแข็งแรงยิ่งขึ้น มันต้องเป็นหน้าที่ของผู้จัดการทีมอย่างไม่มีทางเลี่ยงเลย

ทางออกอาจมาในรูปแบบ การยืมตัวมาขัดตาทัพก่อน ในระยะเวลาแค่ 6 เดือน หาผู้เล่นที่มีคุณสมบัติตรงตามสเป็ก อาจจะไม่ใช่ซะเลยดีทีเดียว ขอแบบใกล้เคียงที่สุด

ทว่าถ้าแผนแรกไม่ผ่าน เพราะเต็มไปด้วยเงื่อนไขผูกมัดมากมาย อาจต้องว่ากันมาที่แผนสอง

บทความที่เกี่ยวข้อง
บนเส้นด้ายอันเปื่อยยุ่ยของ อันโตนีโอ คอนเต้

แมนฯยูไนเต็ด กับแผนชั้นที่สอง

แผนสองคือใช้ของที่มีอยู่ในมือ เหมือนอย่าง เทนฮาก เคยให้สัมภาษณ์ไว้ไม่นานมานี้ นั่นคือพัฒนานักเตะในชุดปัจจุบัน เอาพวกตัวรุกสักคนมาปลุกปั้นยืนหน้าเป้า คอยไล่ล่าประตู

ทุกวันนี้พวกที่ใช้ประจำอย่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หรือ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ไม่ใช่สไตร์เกอร์อยู่แล้ว ส่วนใหญ่เล่นริมเส้นหรือเป็นประเภทกองหน้าตัวสองด้วยซ้ำ

เทนฮาก เอ่ยชื่อผู้เล่นอย่าง ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ , อเลฮานโดร การ์นาโช่ หรือ อันโตนี่ ขึ้นมา นั่นน่าจะหมายความว่าแข้งเหล่านี้จะถูกเคี่ยวเข็ญเรื่องการทำประตูให้มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม

เพื่อจะได้แบ่งเบาภาระของ มาร์กซิยาล กับ แรชฟอร์ด กันสักหน่อย ไม่ใช่โยนความหวังระเบิดตาข่ายให้แค่ 2 คน

จริงๆแล้ว มาร์กซิยาล ก็ใช่ว่าจะคาดหวังได้มากมาย ยังไงก็ขาดมาตรฐานฝากผีฝากไข้ได้

ในขณะที่ แรชฟอร์ด กำลังพุ่งแรงอีกครั้งจริง ยิงประตูอย่างต่อเนื่อง เล่นด้วยความเชื่อมั่น แต่ก็ไม่อาจมอบความวางใจอะไรได้เช่นเดียวกัน

พวกตัวรุกที่เหลือจึงต้องทำงานหนัก เพื่อเรียนรู้การยิงประตู นี่แหล่ะคือหนึ่งในทางออกของ เทนฮาก

นอกจากนี้การดึงผู้เล่นจากทีมเยาวชนขึ้นมา ก็เป็นอีกชอยส์ที่น่าสนใจ สำหรับกรณีใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากสุด

สมัยกุมบังเหียนอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม งานของ เทนฮาก ไม่ใช่แค่ดูแลชุดใหญ่ แต่ต้องลงไปคลุกคลีกับทีมสำรอง ชุดยู-23 หรือแม้กระทั่งอะคาเดมี่ เพราะเป็นฐานสำคัญของสโมสร

อาแจ็กซ์คือหนึ่งในทีม ซึ่งพัฒนาผู้เล่นอายุน้อยๆให้เติบใหญ่ กลายเป็นดาวดังมานานแล้ว รวมถึงใช้สำหรับสร้างรายได้ เมื่อขายทอดตลาดอีกที นำเงินมาหมุนเวียนได้อย่างสบาย

ดังนั้นในบทบาทกุนซือแมนฯยูไนเต็ด เขาจึงลงไปดูทีมสำรองด้วยเช่นกัน แล้วเฟ้นหาแข้งที่ฉายแวว มีความเหมาะสมสำหรับก้าวขึ้นชุดใหญ่ เหมือนอย่างที่เคยเปิดโอกาสให้ การ์นาโช่ จนประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ

ในลิสต์กองหน้าสายเลือดใหม่ มีหลายคนอยู่ในข่ายน่าสนใจ กำลังถูกโฟกัสอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ชาร์ลี แม็คนีลล์ หรือ โจ ฮูกิล ซึ่งมีสถิติการระเบิดตาข่ายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

เทนฮาก เองพยายามทำงานและสื่อสารกับสต๊าฟฟ์ที่ดูแลโดยตรงอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้รับรู้พัฒนาการ ถึงเวลาเหมาะสม เด็กเหล่านี้สุกงอมพอจะได้ดันขึ้นมาเลย

ทั้งแผนหนึ่งหรือแผนสอง ฟังแล้วดูดีมีความหวังขึ้นมา เพราะแฟนแมนฯยูไนเต็ดไม่น้อย อยากเห็นดาวดวงใหม่ส่องประกายบ้าง เชื่อว่าต้องมีคนที่ใช่

แต่ในมุมของผู้จัดการทีม เมื่อมาจุดที่ต้องใช้เงินซื้อ มันก็ควรจะต้องเป็นอย่างนั้น สามารถทำร่วมกับการเจียระไนนักเตะดาวรุ่งพร้อมๆกัน

เพียงแต่ว่าหนทางบรรลุสู่เป้าหมาย อาจไม่เป็นไปอย่างที่หวังกันไว้ ในเมื่อไม่ได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดอย่างเต็มกำลัง

สโมสรมีเงินใครก็รู้ แต่พวกเจ้าของทีมเขี้ยวลากดิน จะเอาแต่ได้เข้าว่า ไม่น่าแปลกใจหรอกที่จะถูกไล่เช้าไล่เย็น