ร่ำลือกันมานานแล้วว่า หากจะกราบไหว้บูชา ขอพรจาก ท้าวเวสสุวรรณ แล้ว ต้องไปที่วัดจุฬามณี อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ทั้งที่ความจริงแล้ว ท้าวเวสสุวรรณนั้น เป็นยักษ์ที่ถูกมอบหมายหน้าที่ให้พิทักษ์พระพุทธศาสนา ก็น่าจะกราบไหว้บูชาได้ตามวัดวาทั่วไป
เหตุใดจึงสร้างท้าวเวสสุวรรณ ที่วัดจุฬามณี
วัดจุฬามณี เป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา นั่นหมายความว่า วัดนี้มีอายุมากกว่า 200 ปี แต่การจัดสร้างค์ท้าวเวสสุวรรณ ขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง สืบเนื่องจาก ความฝันของพระอาจารย์อิฏฐ์ เจ้าอาวาสวัดจุฬามณี ฝันว่าได้ไปพบกับ ท้าวเวสสุวรรณ ในฝัน พระอาจารย์อิฏฐ์ ได้จิตอธิษฐานเป็นสัจจะวาจาว่า
ถ้ากลับไปในโลกมนุษย์จะทำการตั้งรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ ไว้กลางวัด เพื่อแสดงความเคารพต่อท้าวเวสสุวรรณ
ในความฝันนั้น ท้าวเวสสุวรรณ ได้บอกกับ พระอาจารย์อิฏฐ์ ว่า
ถ้าจะสร้างต้องสร้างตามที่ท้าวเวสสุวรรณต้องการ แล้วจะทำให้วัดจุฬามณีเจริญรุ่งเรือง เพราะท้าวเวสสุวรรณจะมาสถิตย์ที่วัดแห่งนี้
ว่ากันว่า ตามความฝันนั้น ได้ระบุด้วยว่า ให้พระอาจารย์อิฏฐ์ ไปหาช่างปูนปั้นที่กำลังทำงานอยู่ที่วัดมหาธาตุ จังหวัดเพชรบุรี
มีการบอกชื่อช่างปูนปั้นให้มาเสร็จสรรพ ว่าชื่อ ทองร่วม เอมโอษฐ์ ซึ่งว่ากันว่า พระอาจารย์อิฏฐ์ ไปหาที่วัดมหาธาตุ เพชรบุรี ถึง 3 ครั้งก็ไม่พบ กระทั่งหนที่ 4 จึงได้ไปหาถึงบ้าน ตกปากรับคำนัดหมายกันให้ไปที่วัดจุฬามณี
ช่างปูนปั้น ทองร่วม เล่าว่า วันที่เดินทางไปถึงวัดนั้น เป็นช่วงที่มีการเข้าทรงท้าวเวสสุวรรณ พอดี มีชาวบ้านอยู่เต็มวัด ต้องเดินแหวกผู้คนเข้าไป ยังไม่ถึงร่างทรงก็กวักมือเรียก
เมื่อเข้าไปแล้ว ก็พูดคุยว่า ท่านเป็นยักษ์ก็จริง แต่ตอนนี้ ได้เลื่อนชั้นเป็นเทพแล้ว เพราะฉะนั้นการาจะปั้นรูปท่านขึ้นมา ต้องเป็นแบบเทพ แต่เพื่อระลึกถึงว่าท่านเคยเป็นยักษ์
ก็ให้ใส่เขี้ยวน้อยๆ ไว้ที่มุมปาก จากนั้นก็เป็นเรื่องรายละเอียดของท่าทาง ก็เลยทำให้ ท้าวเวสสุวรณ ที่วัดจุฬามณี แตกต่างจากที่อื่นๆ
เมื่อผู้คนศรัทธามากราบไหว้ขอพรกันมากขึ้น ก็มีการจัดสร้างองค์ท้าวเวสสุวรรณ ในปางอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีก 3 ปาง
โดยปางแรกที่เป็นไปตามที่ร่างทรงท้าวเวสสุวรรณ แนะนำให้สร้างนั้นเรียกว่า ปางจตุมหาราชิกา หรือปางพรหม ปางถัดมาใช้โลหะหล่อขึ้นมาปิดทอง
เรียกว่าปางหน้าเทพ ส่วนใหญ่มากราบไหว้ขอโชคลาภวาสนา อีกองค์เป็นปางหน้ายักษ์ หรือปางปราบมาร และสุดท้ายเป็นปางเทพเจ้าไช่ชิงเอี้ย หรือปางจีน เพราะคนแถวอัมพวามีเชื้อสายจีน
เรื่องเล่าตามตำนานของท้าวเวสสุวรรณ
ตามตำนานแล้ว ท้าวเวสสุวรรณ เป็น 1 ใน 4 จตุโลกบาล ดูแลทิศอุดร หรือทิศเหนือ เป็นผู้พิทักษ์ค้ำจุนพระพุทธศาสนา และเป็นผู้ที่คอยสอดส่องดูแลมวลมนุษย์
ใครทำดีทำชั่ว แล้วได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของทรัพย์ทั้งมวลที่มีอยู่บนโลกนี้ ดังนั้นผู้คนที่ไปกราบไหว้บูชาขอพร จึงมักไปกราบขอโชคลาภจากท้าวเวสสุวรรณ
ก่อนที่จะมาเป็นท้าวเวสสุวรรณนั้น เคยเกิดเป็นมนุษย์ แต่ศึกษาธรรมะ ตั้งมั่นในธรรม บำเพ็ญตะบะจนถึงขั้นถือศีลกินลม สูดเอาอากาศธาตุเข้าไปก็อยู่ได้โดยไม่ต้องกินอะไรก็มีชีวิตอยู่ได้
จนบรรลุฌานขั้นสูงสุด และแม้จะบรรลุขั้นสูงสุดแล้ว ก็ยังบำเพ็ญต่อไปอีกเป็นแรมปี กระทั่งพระอินทร์ต้องเสด็จลงมาประทานพรให้เป็นผู้มีอำนาจในการครอบงำโลก
เป็นผู้ครอบครองทรัพย์ทั้งปวง เป็นอมตะไม่มีวันตาย และให้รักษาโลกทางด้านทิศเหนือ
ความเชื่อเรื่ององค์ท้าวเวสสุวรรณ ไม่ได้มีเพียงแค่ประเทศไทย
ความเชื่อเกี่ยวกับท้าวเวสสุวรรณไม่ได้มีเพียงแต่ในประเทศไทย ที่ประเทศอินเดีย ประเทศจีน ก็มีท้าวเวสสุวรรณ ด้วยเช่นกัน เพียงแต่มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันไปตามคติความเชื่อของแต่ละพื้นที่
เพียงแต่คล้ายกันในเรื่องของการเป็นเจ้าแห่งทรัพย์ ขับไล่มาร หรือภูตผีปีศาจ และสอดส่องการทำดี ทำชั่วของมวลมนุษย์
ในพุทธศาสนา
ก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการสอดส่องดูแลมวลมนุษย์ของท้าวเวสสุวรรณ ด้วยเช่นกัน โดยเมื่อครั้งพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ต้องการที่จะทดสอลบุญบารมีของพระมเหสี
ก็ได้รนับสั่งให้นางไปหาผ้าไตร 6 หมื่นชุด เพื่อนำไปถวายให้พระภิกษุในวันรุ่งขึ้น
พระมเหสี ของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ก็เป็นทุกข์ใจว่าจะไปหาผ้าไตรจีวรที่ไหนมาถวายพระถึง 6 หมื่นชุดได้ในคืนเดียว ถึงกับนอนไม่หลับ
ได้แต่นั้งทอดถอนใจ ก็เป็นช่วงวันขึ้น 15 ค่ำ พอดี ที่ท้าวเวสสุวรรณ ออกสอดส่องมวลมนุษย์ ก็ได้ยินเสียงถอนหายใจด้วยความทุกข์ของพระนาง จึงได้ปรากฏตัวแล้วถามว่า เป็นทุกข์ในเรื่องอะไร พระนางก็เล่าให้ฟัง
เมื่อได้ความแล้ว ท้าวเวสสุวรรณ ก็บอกว่า ไม่ต้องไปทุกข์ใจอะไร เพราะชาติก่อนนั้น พระนางเคยถวายผ้าไตรจีวรให้พระพุทธเจ้า ผลบุญที่ได้ทำมานั้น จะช่วยให้พระนางหาผ้าไตรจีวรได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ
ท้าวเวสสุสรรณ ได้มอบผอบแก่พระนาง พร้อมกับบอกว่า ดึงผ้าไตรจีวรออกจากผอบได้ตามจำนวนที่ต้องการ
เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า หากทำคุณความดีแล้ว การจะขอหรืออาจจะไม่ต้องขอ ผลบุญก็จะช่วยแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่มีอยู่ให้พ้นไปได้
บทความที่เกี่ยวข้อง ท้าวเวสสุวรรณ วัดนางตะเคียน วัดยักษ์ให้โชค
สิ่งของการกราบไหว้ พร้อมคาถา บูชา ท้าว เว ส สุวรรณ
สำหรับการไปกราบไหว้บูชาท้าวเวสสุวรรณ ที่วัดจุฬามณี นั้น แต่เดิมใช้ดอกจำปี และธูป 9 ดอก ปัจจุบันนิยมใช้ดอกกุหลาบ 9 ดอก
คาถา บูชา ท้าว เว ส สุวรรณ นั้นก็ให้ว่า “อิติปิโส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มะระณัง สุขัง อะหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ”
สำหรับของแก้บน เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันดำริให้เป็นจำพวกข้าวสารอาหารแห้ง หรือปลากะป๋อง ตามยุคสมัยที่เต็มไปด้วยโรคระบาด โควิด 19 เพื่อจะได้นำสิ่งของหรืออาหารเหล่านั้นไปแจกจ่ายให้ผู้ที่ขัดสน สร้างบุญสร้างกุศลได้อีกต่อหนึ่ง