หลัง ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ 2-3 ต่อแมนฯซิตี้ นั่นหมายความว่าลิเวอร์พูลกระเด็นตกรอบคาราบาวคัพเรียบร้อย
พวกเขาคือแชมป์เก่าเมื่อซีซั่นที่แล้ว แต่กลับจบเส้นทางแค่ 16 ทีมสุดท้าย ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องยอมรับในความน่าผิดหวัง
แม้จะบอกว่าต้องเผชิญหน้ากับทีมโครตแกร่งแห่งยุคอย่างแมนฯซิตี้ แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่จะฟังขึ้นซะเลยทีเดียว เพราะมันสะท้อนถึงปัญหาบางอย่าง
รวมทั้งไม่ใช่ว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ฝีมือดร็อปลงจากเดิมเลย แต่มันมีสาเหตุมาจากเรื่องของ “ขุมกำลังเชิงลึก”
ขุมกำลังเชิงลึกคืออะไร เชื่อว่าหลายคนได้ยินบ่อย มันก็คือมาตรฐานหรือคุณภาพนักเตะเมื่อเอามารวมกัน หากทีมที่ต้องการประสบความสำเร็จ ต้องไม่ห่างมากนัก ระหว่างตัวหลักกับตัวสำรอง
คือหากขาดตัวจริงที่ลงเล่นเป็นประจำ พวกแข้งที่เปรียบเสมือนอะไหล่ต้องทำหน้าที่แทน กลับไม่ได้ใกล้เคียงเดิมเลย โดยที่ไม่ต้องขอว่าแทนแบบเนียนกริบด้วยซ้ำ
เอาให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ลิเวอร์พูลมีปัญหาเรื่องคุณภาพของพวกสำรอง ไม่ถึงขั้นมากพอสำหรับลงมาสับเปลี่ยน เพื่อไล่ล่าความสำเร็จ เหมือนอย่างที่เคยทำได้
ถ้าไม่ลงทุนก็ได้แค่ลุ้นเท่านั้น
เจมี่ คาร์ราเกอร์ ซึ่งเป็นทั้งศิษย์เก่าเข้ากระดูกของหงส์แดง รวมทั้งสวมหมวกนักวิเคราะห์เกมทางหน้าจอทีวี คอมเมนต์เลยว่า ถึงเวลาที่จำเป็นมากๆสำหรับการเสริมทัพครั้งใหญ่ของทีม
นั่นหมายถึงต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว ตีเป็นตัวเลขกลมๆในความหมายของเขาคือ 250 ล้านปอนด์
“ผมไม่ต่อต้านเรื่องการลงทุนหรอกนะ มันเห็นกันชัดเจนอยู่แล้ว เรามาคอยดูกันเถอะว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง จากสถานการณ์ที่ต้องเจอในเวลานี้”
“เราพูดมาตลอดว่าเราต้องเตรียมพร้อมให้มาก หากมองที่เรื่องทีมกีฬา เรามีแนวคิด มีการวางแผน แต่ไม่ได้หมายควาใว่า เราจะจัดการได้ 100 เปอร์เซนต์”
“คุณสามารถจินตนาการสถานการณ์ที่เราเป็นอยู่ บางทีเรากำลังมองหานักเตะใหม่ ถ้ามีบางสิ่งเกิดขึ้น เราจะได้เห็นกัน”
“ผมไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ ตอนนี้เราต้องมองสถานการณ์ว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับการลงทุนหรืออะไรทั้งนั้น เราต้องรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบันให้ได้ นั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำ”
จับใจความที่ คาร์ร่า คอนเมนต์แล้ว เขาอยากเห็นการใช้งบประมาณแบบที่ว่า ทำให้สโมสรอันเป็นที่รัก กลับมายิ่งใหญ่อีก
ไม่อย่างนั้นลิเวอร์พูลจะวนเวียน อยู่แค่การได้ลุ้นเท่านั้นเอง ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกทุกปี แต่ไม่มีแชมป์ลีก ถามหน่อยว่าแฟนบอลรับได้หรือเปล่า
เรื่องนี้ คล็อปป์ เองก็ย่อมรู้ดี แต่ในอีกทางก็ต้องเข้าใจนโยบายของสโมสรและจำเป็นต้องยอมรับ แม้จะไม่ถูกใจสักเท่าไรนัก
ก่อนหน้านั้นเขาพยายามปัด ไม่สนใจการเสริมนักเตะในตลาดมกราคม แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังรับมืออยู่ ไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้อีกต่อไปแล้ว
ปมปัญหาใหญ่น่าจะอยู่ที่ฝ่ายบริหาร FSG กลุ่มทุนถือหุ้นใหญ่ จะอุนมัติงบให้ขนาดไหนกัน หากมองที่สถานการณ์เวลานี้
พวกเขาต้องคำนวณให้ดี เพราะต้องไม่ลืมว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจาเพื่อเปิดทางให้กลุ่มทุนรายใหม่ เข้ามาเทคโอเวอร์ตามที่รู้กัน
เชื่อว่าน่าจะมีหลายเจ้าให้ความสนใจ แต่ไม่ใช่ว่าดีลจะปิดลงง่ายๆ เงินมูลค่ามหาศาลน่าจะไม่น้อยกว่า 3.5 พันล้านปอนด์ คงต้องถกกันยาว
ไหนจะไม่ลืมว่า ทางพรีเมียร์ลีกและสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ต้องศึกษาดูรายละเอียด เส้นทางการเงินของกลุ่มทุนที่จะเข้ามาจริง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลุกลามภายหลังด้วย
มิดฟิลด์ตัวกลาง กุญแจที่ ทีมหงส์แดง ต้องตามหา
ตำแหน่งแรกที่ คล็อปป์ ต้องการมากๆคือ มิดฟิลด์ตัวกลาง ที่จะต้องเจ๋งพอชนิดที่ว่าแบกรับภาระหนักอึ้งได้ ในวันที่ไม่มีใครเป็นหลักอีกแล้ว
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมไม่เหมือนเดิม มาตรฐานหล่นลงไปพอสมควร ตามสภาพร่างกายที่กรำศึกหนัก วิ่งพล่านไม่ได้อย่างที่เคยทำแล้วสไตล์หงส์แดงเองก็เน้นเพรสซิ่งดุดัน
ติอาโก้ อัลกันตาร่า ก็ย้ายมาในช่วงอายุเริ่มเยอะ เรื่องความสามารถไม่เป็นที่สงสัย แต่อาการบาดเจ็บนั่นที่คอยรังควาน นั่นแหล่ะที่สำคัญสุดแล้ว มันยากมากที่จะเห็นเขาลงเล่นอย่างต่อเนื่อง
นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งทำให้ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ตัดสินใจไม่เลือก ติอาโก้ ติดทีมชาติสเปนลุยฟุตบอลโลกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง
ลิซานโดร มาร์ตีเนซ ต้องพิสูจน์อีกเท่าไรถึงจะพอ?
ในขณะที่ ฟาบินโญ่ ก็ไม่ต่างกันนัก ผลงานตกลงไป เข้าใจว่ามีเรื่องของร่างกายเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจรวมถึงเรื่องเรื่องจูงใจด้วยเช่นกัน
3 คนนี้เป็นเสาหลักในช่วงที่ผ่านมา เมื่อเสาหลักไม่มั่นคง มันก็ต้องมีปัญหาเป็นธรรมดา
แถมพวกดาวรุ่งเติบโตมาทดแทนไม่ทันแน่ๆ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ อาจมีทั้งพรสวรรค์และพรแสวงผสมผสานกัน แต่ประสบการณ์มันก็สำคัญ ชั่วบินน้อย ความคาดหวังเยอะ ไม่เป็นผลดีหรอก
เช่นเดียวกับ เคอร์ติส โจนส์ หรือ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ผู้มาใหม่ ล้วนแต่กระดูกยังไม่แข็ง รออัพเกรดเบอร์ให้แน่นกว่านี้ก่อน จึงไม่อาจคิดว่าวพกเขาจะสร้างมาตรฐานได้ต่อเนื่อง
หากตามข่าวกันมาจะเห็นว่า เป้าหมายของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการดึง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ มาเติมเต็ม เห็นแววนักเตะดีตั้งแต่ก่อนฟุตบอลโลกเริ่มซะอีก แล้วมาตอกย้ำว่าของจริงด้วยการครองแข้งดาวรุ่งยอดเยี่ยม มันชัดเจนไม่ต้องพิสูจน์อะไรแล้ว
แต่ค่าตัวนั่นเองที่เป็นปัญหา เบนฟิก้าต้นสังกัดวางค่าฉีกสัญญาไว้ที่ 120 ล้านยูโร ต่ำกว่านี้บอกได้เลยว่าฝันกลางวันไปก่อนเลย
ลิเวอร์พูลจะจ่ายหรือเปล่า แล้วทางกุนซือเฮฟวี่เมทัลจะเอาอย่างไร
หากลังเลไม่กล้า อยากได้ของดีแต่ราคาถูก เห็นทีอาจเป็นเรื่องยากที่หงส์แดงจะกลับมาตะแคงฟ้าได้ในเร็ววันนี้