คีเลียน เอ็มบัปเป้ เป็นแค่กระแสเท่านั้นเอง!
ประเด็นร้อนฉ่าเล่นเอาโลกลูกหนังลุกเป็นไฟ คงหนีไม่พ้นข่าว คีเลียน เอ็มบัปเป้ ต้องการจะย้ายออกจากปารีส แซงต์ ในช่วงเดือนมกราคมนี้เลย
สื่อหลายสำนักหยิบเรื่องนี้มาเล่นกันอย่างครึกครื้น ท่ามกลางความเชื่อของแฟนบอล ส่วนใหญ่มองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเลย พฤติกรรมหรือนิสัยส่วนตัวของนักเตะก็พอจะสะท้อนได้อยู่แล้ว
แม้จะมีการออกมาตอบโต้ทันควันจาก หลุยส์ กัมโปส ผู้อำนวยการกีฬา แต่มันน่าจะเป็นเรื่องปกติ ใครบ้างจะหน้าชื่นตาบานออกมายอมรับว่าภายในทีมของตนกำลังมีปัญหาจริง
กัมโปส ไม่รู้ว่า เอ็มบั๊ปเป้ มีความสุขมากน้อยแค่ไหน แต่นักเตะไม่เคยเดินมาพูดอะไรเลย ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีมก็ดูราบรื่น หยอกล้อกันสนุกสนาน
อย่างไรก็ตามจากนี้เป็นต้นไป ความเคลื่อนไหวของดาวเตะเฟร้นช์จะถูกเรดาร์จับตลอดเวลา โดยเฉพาะการเดินทางมายังมาดริดในวันพุธ เพื่อเข้าร่วมชมการแข่งขันวัวชน พร้อมด้วย เซร์คิโอ รามอส เพื่อนร่วมทีม ซึ่งอาสาพาเที่ยวเอง
งานนี้มี เกย์ลอว์ นาวาส กับ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า บินมาอยู่ข้างลานวัวกระทิงเช่นเดียวกัน เป็นช่วงที่เปแอสเชไฟเขียวให้นักเตะได้พักกัน 1 วัน ก่อนจะกลับมาซ้อมอีกครั้ง
ฟลอเรนติโน่ เปเรซ vs นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่
พอมีข่าวว่า เอ็มบั๊ปเป้ จะมามาดริด สื่อต่างก็ตื่นเต้นและพยามโยงว่า ยังไงก็ต้องมีแวบมาคุยกับ ท่านประธาน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ บ้างแหล่ะ
แต่เอาตามตรงเลยดีกว่า เปเรซ เพิ่งประกาศเปรี้ยงแบบทุบโต๊ะไปไม่นานมานี้ว่า เลิกใชสนใจ เอ็มบั๊ปเป้ เรียบร้อยแล้ว รู้สึกแย่ที่โดนหักหลัง ตกปากรับคำอย่างดีแล้วเปลี่ยนใจ ทำอย่างนี้มันเชื่อถือกันไม่ได้
ฉะนั้นหากนักเตะต้องการย้ายเลยในหนาวนี้จริง ความยากลำบากยิ่งทวีคูณอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เพราะต้องไม่ลืมตัวแปรสำคัญอีกข้อ นั่นคือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง คงไม่ยอมปล่อยให้หรอก สองทีมนี้ไม่ถูกกันมาสักพักและดีกรีความเป็นศัตรูดูจะรุนแรงเรื่อยๆ
แนวทางของ เปเรซ กับ นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ก็แตกต่างกันมาก อีกคนอยากฉีกไปจัดตั้งซูเปอร์ลีก โกยเงินเข้ากระเป๋าเป็นกอบเป็นกำ ไม่ต้องรอให้ยูฟ่าเข้ามาจัดการ อีกฝ่ายพร้อมสนับสนุนยูฟ่า ไม่มีความคิดแยกวงเลย
นอกจากนี้ อัล-เคไลฟี่ ต้องการโชว์แสนยานุภาพของเปแอสเชให้โลกรู้เลยว่า ใครกันแน่ที่ยิ่งใหญ่พอ กวาดต้อนสตาร์ดังในยุคปัจจุบันมาไว้ในทีมได้มากกว่ากัน ไม่เชื่อลองดูตอนนี้สิทั้ง เนย์มาร์ , ลิโอเนล เมสซี่ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เหนือกว่ากาลาคติกอส โคตรโปรเจคต์ของมาดริดด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามต้อไงปย้อนดูด้วยว่า เอ็มบั๊ปเป้ ปรารถนาจะย้ายทีมจริงหรือเปล่า ลำพังข่าวที่แห่กันนำเสนอ มันก็ใช่ว่าจะปักใจเชื่อกันได้เลย
บางทีอาจแค่ไม่มีความสุขอย่างที่คาดหวังไว้ เห็นกันอยู่แล้วว่า ความสัมพันธ์ของเขากับ เนย์มาร์ ขาใหญ่ประจำทีมไม่ดีเหมือนอย่างเคย อีกทั้ง เมสซี่ ผู้มาทีหลังก็แผ่อิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ บารมีของเขาเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมทีมอื่น
สาเหตุขัดแย้งระหว่าง เอ็มบั๊ปเป้ และ ปารีส
สำหรับ เอ็มบั๊ปเป้ ตกอยู่ในสถานการณ์อย่างที่เห็น ยังไงก็ต้องอึดอัดใจเป็นธรรมดา ทั้งที่เขาควรได้รับการยกย่องอุ้มชูมากกว่าใคร เป็นจุดศูนย์กลางของทีม ตอนถูกเกลี้ยกล่อมให้อยู่ต่อ น่าจะมีเงื่อนไขในทำนองนี้รวมไว้ด้วย
แต่เขาคงไม่กล้าไปแตะต้อง เนย์มาร์ กับ เมสซี่ อย่างแน่นอน ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเกรงใจรุ่นพี่ ดังนั้นจึงได้แต่เฝ้าดูสถานการณ์และเห็นแล้วว่าไม่ได้เป็นไปตามวาดฝันไว้เลย
ส่วนอีกประเด็นก็คือ เอ็มบั๊ปเป้ ไม่พอใจสโมสร ไม่ยอมทำตามแผนงานตามตกลงกันไว้ นั่นคือดึงกองหน้าตัวเป้าชั้นดีมาร่วมทีม เพื่อเสริมส่งบทบาทให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
การต้องเล่นร่วมกับ เมสซี่ และ เนย์มาร์ สำหรับนักเตะทุกคน มันเป็นเรื่องยอดเยี่ยมมากในจินตนาการ แต่ความจริงต่างกัน เพราะบางครั้งการยืนตำแหน่งทับซ้อน ไม่มีใครเป็นกองหน้าตัวเป้า สไตล์การเล่นจะสอดส่ายตลอดเวลา
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นคำตอบในใจของ เอ็มบั๊ปเป้ แต่ทางเปแอสเชกลับไม่ได้แสดงให้เห็นว่าดิ้นรนมากพอ เพื่อแย่งกับบาร์เซโลน่าเลยสักนิด
เช่นเดียวกับเคสของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ซึ่งทางสโมสรก็ไม่ได้ทาบทามจริงจัง ทั้งที่ตกลงกันไว้ เพราะหากได้มาเสริมทีม เกมรุกของเปแอสเชจะมีประสสิทธิภาพมากกว่าเดิมด้วย
แล้ว แบร์นาร์โด้ กับ เอ็มบั๊ปเป้ เคยร่วมงานกันมาก่อนที่โมนาโก ความสัมพันธ์แนบแน่นไร้ปัญหา แต่ปัญหาคือเปแอสเชไม่อยากได้ กลับไปคว้าผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางมากมายทั้ง วิตินญ่า , การ์ลอส โซเลร์ , เรนาโต้ ซานเชส และ ฟาเบียน รูอิซ ซึ่งดูเกินความจำเป็น
เมื่อบวกกับการที่สโมสรยังคงเก็บ เนย์มาร์ ไว้ต่อไป ไม่พยายามมากพอเพื่อหาทางปล่อยสู่ทีมอื่น เอ็มบั๊ปเป้ เลยยิ่งไม่พอใจหนัก จนคิดว่าตัวเองเหมือนโดนหักหลัง สัญญาเป็นเพียงแค่คำพูดลอยๆ
อนาคตของประธานเป้
สื่อบางเจ้าหรือนักข่าวบางคนระบุว่าในสัญญาที่เว็นกันล่าสุด 3 ปี อาจมีเงื่อนไขที่สามารถทำให้ เอ็มบั๊ปเป้ ย้ายทีมได้ ซึ่งตรงช่องว่างนี้แหล่ะที่สำคัญ
ว่ากันตามตรงในโลกนี้ มีไม่กี่ทีมหรอกศักยภาพพอสำหรับดึง เอ็มบั๊ปเป้ มาร่วมทัพได้ โดยเฉพาะมันต้องเกิดขึ้นในช่วงตลาดมกราคม
บทความที่เกี่ยวข้อง ลิเวอร์พูล เข้าขั้นวิกฤต คล็อปป์จะรอดมั้ย กับอาถรรพ์ 7 ปีของการคุมทีม
เรอัล มาดริด , แมนฯซิตี้ , แมนฯยูไนเต็ด , เชลซี ส่วนลิเวอร์พูลจะกล้าจ่ายมากขนาดไหน อันนี้เป็นอีกตัวแปร ไม่ใช่โปรเจคต์ของ FSG ซึ่งเป็นกลุ่มทุนใหญ่ในเวลานี้
ทั้งค่าตัวและค่าจ้างที่แบกรับมหาศาล อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ไหนจะเรื่องความเสี่ยง ซึ่งเห็นกันอยู่ว่าพฤติกรรมของ เอ็มบั๊ปเป้ น่าเป็นห่วงเลยทีเดียว
ฝีเท้าถูกยอมรับก็จริง แต่ไม้ได้หมายความว่า คุณจะเป็นที่ต้องการเสมอไปหรอก
ดังนั้นดีลย้ายของ เอ็มบั๊ปเป้ ในตลาดมกราคมนี้หรือต่อให้เป็นช่วงซัมเมอร์หน้า ก็เกิดขึ้นยากอยู่ดี