ก่อนหน้านี้เราเคยได้ยินหรือได้เห็น พวกสื่อเสนอประเด็นกฎเหล็กต่างๆที่ กุนซือเทนฮาก นำมาใช้กับแมนฯยูไนเต็ด
ถ้ายังพอจำกันได้ มีอยู่หลายข้อเลยทีเดียว โดยฉีกไปจากยุคก่อน ผู้จัดการทีมหลายคนปล่อยปละละเลยมากเกินไป จนทำให้วินัยเสีย กระทบมาถึงฟอร์มในสนาม
ล่าสุด เฟร็ด ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง The Times หลายประเด็นด้วยกัน หนึ่งในนั้นมีเรื่องกฎหลัก 3 ข้อ ซึ่งนักเตะทุกคนจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ห้ามทำผิดพลาดเป็นอันขาด
หากใครฝ่าฝืนหรือมีพฤติกรรมที่แสดงถึงการทำผิด จะต้องเจอกับบทลงโทษอย่างไม่มีทางเลี่ยง ทัดเทียมเท่ากันปราศจากอภิสิทธิ์พิเศษทั้งสิ้น
ข้อสองเลยก็คือ นักเตะทุกคนห้ามมาสายอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นการประชุมทีม โปรแกรมฝึกซ้อม รวมถึงในกรณีพิเศษที่ต้องมีนัดหมายกัน
ข้อสองก็คืออย่าทำในสิ่งที่ผิดพลาด ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งในและนอกสนาม ซึ่งตรงนี้น่าจะแยกย่อยออกมาเป็นรายละเอียดอีก
ข้อสามก็คือต้องช่วยเหลือพาร์ทเนอร์หรือเพื่อนร่วมทีมที่จับคู่กัน อย่างเช่นรูมเมต ซึ่งนอนห้องเดียวกันยามเก็บตัวที่โรงแรม ต้องเดินทางไปเล่นเป็นทีมเยือน
ช่วยเหลือนี่ครอบคลุมทุกอย่าง ไม่ใช่แค่ทางกายเท่านั้น ทางด้านจิตใจก็สำคัญอย่างมาก หากเพื่อนร่วมทีมสนับสนุนกัน ปัญหาหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้น ก็จะฝ่าก้าวข้ามไปง่ายกว่าเดิม
ส่วนพวกแยกย่อยออกมาเท่าที่รู้คือ นักเตะทุกคนต้องมากินข้ามที่แคนทีนร่วมกัน ห้ามใครกลับไปกินที่บ้าน เมนูหรือคอร์สทุกอย่างที่ทางสโมสรจัดไว้ให้ถือว่าเหมาะสมดีอยู่แล้ว ถูกต้องตามหลักโภชนาการ
นอกจากนี้ห้ามใช้โทรศัพท์ในทุกกรณี ระหว่างฝึกซ้อมหรืออยู่บนม้าสำรอง เช่นเดียวกับการแต่งกายที่ต้องเป็นไปตามข้อกำหนด ไม่ใช่ใครอยากใส่เสื้อตัวไหน สีอะไรก็ทำได้ตามอำเภอใจ
นักเตะทุกคนจำเป็นต้องช่วยกันรักษาภาพลักษณ์สโมสร แมนฯยูไนเต็ดเป็นแบรนด์ระดับโลก ตรงนี้ต่างรู้กันดีอยู่แล้ว
กุนซือเทนฮาก ลงดาบเชือดไก่
เท่าที่ผ่านมา ผู้เล่นบางคนที่ฝ่าฝืนทำผิด เคยโดนเล่นงานมาเรียบร้อย ไล่ตั้งแต่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ตอนปรีซีซั่นมาเยือนไทยและออสเตรเลีย
จะเห็นได้ว่า 4 เกมดังกล่าว ดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์ไม่ได้ลงเล่นเลยสักวินาทีเดียว ว่าไปแล้วมันผิดวิสัยอย่างมาก ก็แค่เกมอุ่นเครื่องธรรมดา ควรให้โอกาสพวกยังบลัดที่มีแววโชว์ของสักหน่อย
นักเตะจากทีมสำรองมากมายที่ร่วมเดินทางไปด้วย ต่างได้สัมผัสเกมทั้งสิ้น เล่นเอาทุกคนงงไปตามๆกัน จะบอกว่ามีปัญหาบาดเจ็บก็คงไม่ใช่ ในเมื่อเห็นฝึกซ้อมตามปกติ ต้องมีบางอย่างผิดพลาดแน่นอน
ภายหลังมารู้ว่า การ์นาโช่ มาประชุมทีมสาย ต้องให้เพื่อนๆรอกันหลายนาที อีกทั้งตัวเขาเองยังเป็นเด็กที่เพิ่งก้าวขึ้นมา เรื่องอย่างนี้จำต้องเข้มงวดให้มาก ไม่ใช่คิดว่าเป็นสตาร์กำลังจะดังแล้วหลงระเริง
เทนฮาก เลยจัดการฟันฉับทันที เพื่อให้เป็นบทเรียน คราวหน้าจะได้จำไว้ ไม่ก่อเรื่องขึ้นมาอีก
จากนั้นถึงคิว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งตามข่าวบอกว่า กุนซือดัตช์ไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก ที่ไม่ยอมเดินทางร่วมทัพช่วงปรีซีซั่น แม้จะมีกระแสว่า ขออนุญาตลากรณีพิเศษ เนื่องจากปัญหาครอบครัว
เบื้องหลังมีรายละเอียดอย่างไร มันยากที่จะล่วงรู้ได้ แต่ที่แน่ๆ เพื่อความยุติธรรม เมื่อนักเตะไม่ได้ลงเกมปรีซีซั่น นั่นก็หมายความว่าพอฤดูกาลเปิดฉาก คุณอาจจะต้องปักหลักที่ม้าสำรองไปก่อน ถือว่ายังไม่มีความพร้อมมากพอถึงตามเกณฑ์ ซึ่งถูกกำหนดไว้แล้ว
นอกจากนี้ เทนฮาก ยังให้สัมภาษณ์ออกสื่อด้วย จากกรณีที่ โรนัลโด้ กลับบ้านก่อนในช่วงพักครึ่งของเกมอุ่นเครื่องที่เจอราโย บาเยกาโน่ แทนที่จะรอจนจบก่อน นี่คือสิ่งที่ไม่เหมาะสมมาก
แม้เขาจะอ้างว่ามีผู้เล่นบางคนก็กลับก่อนเช่นกัน แต่หลักฐานมันชัดเจนว่า เขาแวบออกไปจริงๆ
ส่วนหนึ่งจากการโดนลงโทษ ทำให้ซูเปอร์สตาร์อย่างเขาอาจจะรับไม่ได้ ก่อนจะไปให้สัมภาษณ์ผ่านทาง เพียร์ส มอร์แกน แล้วก็โดนตัดขาด ปล่อยตัวตามที่รู้กัน
ล่าสุดคนที่โดนและเป็นที่รับรู้ทั่วกันคือ มาร์คัส แรชฟอร์ด สาเหตุมาจากนอนเพลิน ตื่นสายมาไม่ทันประชุมทีม ดังนั้นเลยต้องโดนจับนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
ต่อให้ แรชชี่ กำลังอยู่ในช่วงพีก ฟอร์มเข้าฝักอย่างมาก แต่หากทำผิดกฎข้อบังคับ ไม่ว่าคุณจะเก่งขนาดไหน เป็นขาใหญ่ในทีม ก็ต้องโดนลงโทษไม่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตามตัวเขาเองยอมรับผิด อย่างไม่มีข้อโต้แย้งเลย ในครึ่งหลัวที่ถูกเปลี่ยนลงมาก็ยังยิงประตูชัย ช่วยทีมคว้าชัยชนะได้อีก
การที่ แรชชี่ ยอมรับอย่างไม่มีอิดออดหรือข้อแม้อะไรทั้งสิ้น นั่นมาจากความเชื่อมั่นและเคารพในตัว เทนฮาก นั่นเอง ตอนนี้เข้าใจแล้วว่านี่คือเจ้านายของจริง
ยอมรับเลยว่า เทนฮาก กล้าหาญมากที่กล้าเปลี่ยนแปลงแบบไม่เกรงใจนักเตะคนไหน ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นเลยว่า เขามีความสามารถมากพอที่จะรับมือได้
แมนฯยูไนเต็ดเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะชายคนนี้เลยจริงๆ