ถ้าจำไม่ผิด 2 ครั้งแล้วที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ออกสื่อและยุยงให้ แฮร์รี่ แม็กไกว หาสโมสรใหม่ในเร็ววันนี้ซะ
เหตุผลไม่มีอะไรมากไปกว่า การต้องนั่งจับเข่าเป็นตัวสำรองแบบถาวร มองไม่เห็นอนาคตเลย ทั้งที่ตัวเองคือกัปตันตัวจริงเสียงจริงแท้ๆ ไม่สมควรต้องมาตกอยู่ในสถานะอย่างที่เห็น
ซ้ำร้ายกว่าก็คือในช่วงฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมา แม็กไกวร์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เป็นกำลังสำคัญของทีมชาติอังกฤษ กรุยทางผ่านเข้ารอบควอเตอร์ไฟนั่ล ก่อนไปพ่ายให้ฝรั่งเศสอย่างน่าเสียดาย
แม็กไกวร์ คือหนึ่งในแข้งสิงโตคำรามที่โชว์ฟอร์มได้เจิดจ้ามากสุดคนหนึ่งประจำทัวร์นาเม้นต์ ไม่มีอะไรต้องน่าตำหนิเลย
ภาพจำต่างๆถึงความผิดพลาดแบบหมูหกที่แสดงให้เห็นบ่อยๆ ในสีเสื้อแมนฯยูไนเต็ด แทบไม่มีให้พูดถึงเลย เรียกว่าโดดเด่นผิดหูผิดตามากเลย
ฉะนั้นเพื่อความชอบธรรมจากผลงานที่ทิ้งไว้ในเวิลด์ คัพ มันสมควรที่เขาควรได้รับความไว้วางใจจาก เอริก เทนฮาก บ้างสิ
หรือ! แฮร์รี่ แม็กไกว จะกลายเป็นส่วนเกิน?
อย่างไรก็ตามขนาดไม่มี ลิซานโดร มาร์ตีเนซ ที่ยังไม่กลับมาจากการฉลองกับทีมชาติอาร์เจนตินา โอกาสควรจะตกเป็นของ แม็กไกวร์ ไม่ใช่หรือ ไหนจะมีเคส ราฟาแอล วาราน ไม่ฟิตเต็มร้อย เพิ่งผ่านนัดชิงกับฝรั่งเศสมา
ที่ไหนได้ เทนฮาก ไว้เนื้อเชื่อใจให้ ลุค ชอว์ จากแบ็กซ้ายหุบมายืนเป็นปราการหลังตัวกลางซะอย่างนั้น
จริงๆตำแหน่งนี้กับ ชอว์ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เขาเคยเล่นมาก่อน รวมถึงในทีมชาติอังกฤษ ก็เคยรับบทมาแล้ว แต่นั่นมันระบบเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คน ไม่ใช่เล่นคู่อย่างนี้
แถม เทนฮาก ยังใช้งาน ชอว์ ในตำแหน่งดังกล่าวต่อเนื่องเลย ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่ถนัด ต่อให้จะเล่นดีแค่ไหน มันก็ไม่ควรเสี่ยง
อย่าลืมว่าเซ็นเตอร์แบ็กสำคัญมาก ในเชิงแท็คติกฟุตบอล เปรียบเหมือนเส้นเลือดใหญ่ในแนวรับ คนที่รับผิดชอบได้ตลอดรอดฝั่ง 90 นาทีจะต้องเจ๋งจริง
แม็กไกวร์ เลยโดนวิจารณ์ว่าโดนเจ้านายมองข้ามหัว นั่นเลยเกิดเสียงเชียร์ ให้ย้ายออกซะเถอะ อย่ามัวแต่เสียเวลาเลย อายุมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ควรได้เล่นสมน้ำสมเนื้อกว่าที่เห็น นี่ไม่แฟร์เท่าไร
แต่ต้องไม่ลืมว่าการตัดสินของ เทนฮาก ถือว่าถูกต้องเลย ชอว์ ทำหน้าที่ได้อย่างดีงาม แทบไม่มีสะดุดติดขัด จนบางคนบอกว่าดีกว่ายืนแบ็กซ้ายในบางนัดด้วยและเข้าขากับ วาราน อีกต่างหาก
ดังนั้นจึงไม่มีเสียงตำหนิ เทนฮาก มีแค่เพียงเตือนให้ แม็กไกวร์ พิจารณาอนาคตตัวเองซะ
จริงๆใครเป็น แม็กไกวร์ ก็ต้องคิดหนักกันทั้งนั้นแหล่ะ จะมัวแต่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวคงไม่ได้หรอก มันพอดูออกว่าไม่ค่อยได้รับความไว้วางใจ จากเจ้านายอย่างที่ควรจะเป็น
จากที่เป็นตัวเลือกรองจาก วาราน และ มาร์ตีเนซ เท่านั้นไม่พอยังต้องขับเคี่ยวกับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ อีกด้วย ใช่ว่าจะการันตีเซ็นเตอร์แบ็กลำดับ 3 เลยซะเมื่อไร
พอมี ชอว์ มาแทรกอีกคน มันยิ่งตอกย้ำความจริงตรงนี้ เผยให้เห็นแจ่มชัดเลยว่า แม็กไกวร์ น่าจะเป็นส่วนเกิน
อย่างไรก็ตาม เทนฮาก เองก็คงรู้สึกถึงได้ถึงกระแสดังกล่าว จึงพยายามเปิดโอกาสให้ แม็กไกวร์ ลงตัวจริงบ้าง บางนัดในพรีเมียร์ลีก ก็ให้สตาร์ต รวมถึงบอลถ้วยด้วย ถือว่าปัดเป่าบรรยากาศตึงเครียดได้เลย
ทว่าที่น่าสนใจก็คือ ไม่กี่วันก่อนมีคนจับภาพได้ว่า แม็กไกวร์ พร้อมด้วยเอเยนต์ส่วนตัว ไปนั่งทานอาหารที่ภัตราคารใกล้กับบริเวณสนามซ้อมของแอสตัน วิลล่า จนเกิดเสียงกระซิบนินทา อาจไปเจรจาเพื่อย้ายสโมสรก็ได้
บังเอิญเหลือเกินว่า วิลล่าเองก็มีปัญหาตรงแนวรับเปื่อยยุ่ย อูไน เอเมรี่ ผู้จัดการทีมคนใหม่ คงต้องหาทางปะขุนให้แน่นหนายิ่งขึ้น จึงมีสิทธิ์ให้ความสนใจกัปตันทีมปีศาจแดง
ตามธรรชาติของข่าวลือที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว จนสื่อเอาข้อมูลตรงนี้ไปอ้างว่า แม็กไกวร์ อาจกำลังเจรจาเพื่อย้ายไปวิลล่าจริง ตามเสียงเชียร์ของใครต่อใครมากมาย
บทความที่เกี่ยวข้อง แกเร็ธ เบล เล่นต่อไปก็หมดไฟลาเลยแล้วกัน
แต่แล้วไม่นานนักข้อมูลที่แท้จริงก็ถูกขุดอออกมา ก่อนได้ความว่า แม็กไกวร์ ไปงานกอล์ฟที่เบอร์มิ่งแฮม คือวิลล่าก็ตั้งอยู่ในเมืองนี้แหล่ะ แต่อยู่แถบชานๆ ดังนั้นไปกินข้าวโซนดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
ว่ากันตามเนื้อผ้าและสถานการณ์ เทนฮาก ไม่มีทางปล่อยนักเตะออกไปในช่วงเวลานี้เด็ดขาด
เพราะหากไฟเขียว แม็กไกวร์ ย้ายไปที่อื่น นั่นหมายถึงขนาดทีมจะลดลง ขุมกำลังเชิงลึกมีปัญหา แล้วแมนฯยูไนเต็ดกำลังลุ้น 4 รายการ ลีกคัพก็ทะยานเข้ารอบรองชนะเลิศไปแล้ว
ไม่มีเหตุผลเลยที่ เทนฮาก จะทำอย่างนั้น คงต้องเสียเวลาเจรจาเฟ้นหาผู้เล่นใหม่มาแทน มันไม่ใช่ประโยชน์เลย
อย่างน้อยที่สุด แม็กไกวร์ น่าจะปักหลักกับทีมต่อไปจนสิ้นฤดูกาลนี้ แล้วค่อยมาถกกันว่าจะเอาอย่างไรกันดีกับอนาคต
ที่สำคัญตัวเขาเองก็น่าจะเลื่อมใสศรัทธา เทนฮาก แม้จะไม่เหมือนบอสคนอื่นๆที่ผ่านมา แต่แสดงให้เห็นว่าเป็นธรรมและมีเหตุผลพอ
จากนี้เขาต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อเบียดขึ้นมาเป็นตัวจริงให้ได้ รวมทั้งตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะยืนอยู่บนโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน ไม่ใช่ได้ลงตัวจริงแบเบอร์อีกต่อไป
นี่คือโลกแห่งความจริงที่ แม็กไกวร์ ได้สัมผัส อีกไม่นานเขาจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งเอง