เวลานี้แฟนผีกำลังมีความสุข กับแนวทางการทำงานของ แมนฯยูไนเต็ด เทนฮาก ที่ฉายภาพผู้นำคนเก่งให้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
เรามักได้ยินข่าวที่เป็นไปใน ทิศทางบวกเสมอระยะหลัง ดูเหมือนปัญหาที่เคยเรื้อรัง ฝังรากหยั่งลึกมานานหลายปี กำลังจะได้รับการแก้ไขขจัดปัดเป่าให้ดีขึ้นตามลำดับแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น เทนฮาก ผู้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมผิดๆ บางอย่างในองค์กร โดยเฉพาะกลุ่มผู้เล่นที่ได้รับการสปอยล์ จนเคยตัวและกลายเป็นเหมือนเนื้อร้ายในเวลาต่อมา
หรืออำนาจอย่างแท้จริงของคนเป็นผู้จัดการทีม เทนฮาก ยืนหยัดในจุดนี้ ต้องได้สิทธิ์ขาดในการเลือกผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือขาย ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้บริหารลงมาล้วงลูกวุ่นวายเหมือนอย่างเมื่อก่อน
ขณะเดียวกันเขาบอกอย่างชัดเจนว่า ต้องให้ความสำคัญกับสโมสรมาก่อนอื่นใด ไม่มีใครใหญ่กว่าทีมอีกแล้ว ทุกคนต้องน้อมรับความจริงข้อนี้ ต่อให้คุณคิดว่าตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์ก็ตาม
เพราะเหตุดังกล่าว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เลยอยู่ต่อไม่ได้ เมื่อแข็งข้อหาญกล้าวัดบารมีขนาดนั้น มีทางเดียวคือต้องเก็บผ้าผ่อนออกไปซะ
เทนฮาก เองก็ไม่ได้ใหญ่กว่าสโมสรหรอก อย่าเพิ่งขึ้นว่าจะมาครอบครองอะไรทั้งสิ้น เขาทำตามบทบาทหน้าที่ เคารพและให้เกียรติทุกคน เพื่อขับเคลื่อนให้สโมสรเดินหน้าสู่เป้าหมายได้
ประโยคที่กุนซือดัตช์ชอบพูดอยู่บ่อยๆก็คือ ทุกคนต้องทำงานหนักเสมอกัน เพราะต่างมีเป้าหมายเดียวกัน ที่ต้องกอดคอฝ่าฟันไปให้ถึง ภารกิจซึ่งถูกวางเอาไว้ สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด
เรายังได้เห็นถึงความละเอียดรอบคอบของ เทนฮาก ต่อเนื่องอีกด้วย อย่างเช่นหากเป็นเกมในบ้าน ก่อนเขี่ยบอลราว 3-4 ชั่วโมง จะต้องเดินไปสำรวจสนาม ใส่ใจทุกอย่างว่าเป็นไปตามที่สั่งหรือไม่
หากมีข้อผิดพลาดขึ้นมา ยังมีเวลาสำหนับแก้ไขได้ ไม่ฉุกละหุกเกินไปนัก
การคุมทีม แมนฯยูไนเต็ด เทนฮาก คือใส่ใจนักเตะ
นอกจากนี้เขายังพยายามพูดคุย ทำความเข้าใจกับลูกทีมทุกคน ใช้เวลาวันละหลายชั่วโมง สับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน เพื่อทำความรู้จักให้มากขึ้นไปอีก ในบางสถานการณ์ มันต้องมากกว่าแค่การเป็นเจ้านายกับลูกน้อง
แม้กระทั่งเรื่องของการนอน เขาจะถามไถ่เลยว่า นอนหลับสนิทดีหรือเปล่า หากพบว่ามีปัญหา จะได้หาทางช่วยแก้ไข เพราะหากหลับสนิทแบบเพียงพอ ร่างกายก็ฟื้นฟูเต็มที่ มีผลต่อสภาพร่างกายอย่างมาก
เทนฮาก จึงจัดโปรแกรมหรือตารางให้ผู้เล่น ได้นอนหลับที่สโมสรหรือที่เรียกกันว่างีบนั่นแหล่ะ การได้พักผ่อนสัก 1-2 ชั่วโมง แล้วตื่นมาซ้อมต่อ จะช่วยให้ร่างกายเฟรชยิ่งขึ้นอีก
ไม่เชื่อลองดูเคสของ เจดอน ซานโช่ ซึ่งมีปัญหาส่วนตัว จนถึงขั้นปลีกตัวออกจากโซเชี่ยล ลบข้อมูลในอิสจาแกรมทั้งหมด จนคล้ายเป็นโรคซึมเศร้า
เทนฮาก รีบเข้ามาจัดการ พูดคุยต่างๆนานาเพื่อรับรู้ว่า นักเตะมีปัญหาอะไร ก่อนจะส่งตัวไปยังเนเธอร์แลนด์ รักษากับผู้เชี่ยวชาญที่รู้จักมักจี่กัน เชื่อว่าน่าจะช่วยเยียวยาอาการได้
ที่นั่น ซานโช่ ต้องเข้าคอร์สฟื้นฟูสภาพจิตใจ รวมทั้งรักษาความฟิตของร่างกายควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาสู่สภาวะเดิมอย่างรวดเร็วที่สุด
ไม่ใช่แค่นั้น เทนฮาก ยังใส่ใจลงลึกรายละเอียด เกี่ยวกับสัญญาและค่าจ้างผู้เล่น ไม่ใช่ปล่อยให้บอร์ดมีอำนาจ ในการตัดสินใจเหมือนอย่างเมื่อก่อน
เท่าที่ผ่านมาบอร์ดประเคนทุกอย่างให้พวกนักเตะ ทั้งสัญญาระยะยาว ค่าจ้างแพงระยับเกินจริง จนทำให้รู้สึกสบายใจ ไม่ต้องกระเสือกกระสน ก็มีความมั่นคงในหน้าที่การเงิน มีเงินกินใช้ไปทั้งชาติ
เกมไหนอยากเล่นก็ใส่เต็มสูบ แต่ถ้าไม่มีอารมณ์ขึ้นมาก็เหยาะแหยะ อย่างนี้คงไม่ดีแน่
เขาอยากให้นักเตะออกมาจากคอนฟอร์ทโซน จะได้ตื่นตัวกระหายตลอดเวลา เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าดีพอสำหรับสัญญาฉบับใหม่ หรือค่าจ้างที่สมควรอัพให้สูงขึ้นอีก
รวมถึงสโมสรได้เซฟค่าจ้างด้วย ไม่ใช่เหมือนเมื่อก่อน คิดอะไรไม่ออก ใช้เงินแก้ปัญหาอย่างเดียว ถือว่าทำงานกันมักง่ายเกินไป
สิ่งละอันพันละน้อยเหล่านี้แหล่ะ ช่วยเติมเต็มให้แมนฯยูไนเต็ด เป็นรูปเป็นร่างมากยิ่งขึ้น แม้จะต้องเหมือนนับหนึ่งกันใหม่ แต่ใช่ว่าจะสายเกินไป
บทความที่เกี่ยวข้อง แมน ยูไนเต็ด กับหอกใหม่ในเดือนมกรา
เจมี่ คาร์ราเกอร์ ยังชื่นชมวิธีการคุมทีม
ขนาด เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังลิเวอร์พูล ซึ่งปัจจุบันรับบทผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์เกม ตามปกติมักจะตั้งตน เป็นศัตรูกับแมนฯยูไนเต็ด ยังอดไม่ได้ต้องหลุดปากชื่นชม เทนฮาก
ใครที่ชอบพูดว่า แมนฯยูไนเต็ดห่างจากแมนฯซิตี้หรือลิเวอร์พูลอยู่ 5 ปี ไม่เป็นความจริงเลยสักนิด หากคุณเป็นทีมใหญ่และผู้จัดการทีมเจ๋งจริงๆ รับรองเลยว่า ใช้เวลาไม่นานก็ตามทัน
ตัวอย่างมีให้เห็นอยู่แล้ว จากการทำงานในแบบฉบับของ เทนฮาก นี่เอง ไม่ต้องไปดูอื่นไกล
หลายคนมองว่า เทนฮาก ดูตึงไปหน่อย จริงจังซีเรียสมาก ดูเหมือนไม่ค่อยผ่อนคลาย แต่จริงๆน่าจะสะท้อนจากบุคลิกที่เป็นอย่างนี้มากกว่า
อาจดูหนักแน่น แต่ในอีกด้านก็ผ่อนคลาย พร้อมจะประนีประนอม หากมองว่าเป็นประโยชน์จริง
เขาไม่จำเป็นต้องหักด้ามพร้าด้วยเข่า อันหมายถึงแตกกับผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผน ตรงกันข้ามเลือกจะให้โอกาสทุกคน อย่างเหมาะสม หากใครฉวยได้ก็ดีไป ทีนี้โอกาสจะมากมายขึ้นเรื่อยๆ
ในฐานะผู้มาใหม่ เขาจะบุ่มบ่ามไม่ได้เด็ดขาด ต้องมีศิลปะในการปกครองด้วย ไม่อย่างนั้นต่อให้เก่งแค่ไหน แต่หากห้องแต่งตัวมาคุขึ้นมา อาจทำตกเก้าอี้ได้
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยเล่าให้ฟังว่า อย่างหนึ่งที่จะไม่มีทางสูญเสียหลุดมือ ในช่วงเป็นผู้จัดการทีม นั่นคืออำนาจในห้องแต่งตัว ซึ่งเกิดจากทั้งพระเดชและพระคุณสองอย่างตีคู่กันไป
แต่สิ่งหนึ่งคือ เฟอร์กี้ จะไม่ปล่อยให้ลูกทีมคนไหน ก้าวขึ้นมาท้าทายอำนาจอย่างเด็ดขาด เหมือนที่ เทนฮาก ก็ไม่เอา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไว้เช่นเดียวกัน
ตอนนี้ห้องแต่งตัวเป็นของ เทนฮาก เรียบร้อย คือจุดเริ่มต้นสำคัญอย่างมาก สำหรับทำการใหญ่ต่อไป