การคุมทีมของ แกเร็ท เซาท์เกต นัดแรกของทีมชาติอังกฤษผ่านพ้นไปอย่างเซอร์ไพรส์ไม่น้อยเลย
ชัยชนะเหนืออิหร่านไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรหรอก แต่การกะซวกด้วยสกอร์ 6-2 แบบถล่มทลายต่างหาก ทำให้หลายคนต้องย้อนกลับมาดูอีกทีว่าทำได้อย่างไรกัน
เพราะก่อนเดินทางมากาตาร์ ต้องยอมรับว่าสภาพของสิงโตคำรามไม่น่าไว้เนื้อเชื่อใจสักเท่าไรนักหรอก
6 เกมหลังสุดซึ่งเป็นศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกล้วนๆ ควานหาชัยไม่เจอเลย เสมอไป3 และแพ้อีก 3 น่าอับอายก็คือเกมโดนฮังการีบุกมายำที่โมลินิวซ์ กราวด์ 4-0 นั่นเอง ทำเอาเสียงขับไล่ แกเร็ธ เซาธ์เกต กระหึ่มทันที อย่างนี้ไม่ไหวแล้ว ทำแฟนๆต้องเอาปี๊บคลุมหัวกันหมด
วิเคราะห์กันว่า เซาธ์เกต น่าจะหมดมุกแล้ว บอลทรงนี้น่าจะถูกคู่แข่งจับทางได้ แถมยังไม่อะไรอีก สปีดช้ามากๆ เน้นเพลย์เซฟจนกลายเป็นน่าเบื่อไปเลย ทั้งที่มีผู้เล่นแนวรุกคุณภาพไม่น้อย
ผลงานไม่เอาไหน เล่นด้วยสไตล์ที่โคตรชวนง่วงนอน อย่างนี้ไม่เหมาะกับเก้าอี้อันทรงเกียรติหรอก
ใครที่ตามทีมชาติอังกฤษมาต่อเนื่อง พอจะรู้ลักษณะนิสัยแฟนบอลว่าใจร้อนด่วนได้ ไม่พอใจอะไรเอะอะก็จะให้เปลี่ยนอย่างเดียวเลย
ทั้งที่หากดูกันตามความเป็นจริงแล้ว นับตั้งแต่หมดยุค เซอร์ อัล์ฟ แรมซี่ย์ ซึ่งเคยพาสิงโตคำรามครองแชมป์โลกในปี 1966 ซึ่งเป็นสมัยแรกและสมัยเดียวบนหน้าประวัติศาสตร์
แกเร็ท เซาท์เกต ต้องเผชิญข้อครหามากมาย
ก็เซาธ์เกตนี่แหล่ะที่ยิ่งใหญ่ลดหลั่นลงมา เพราะพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีก่อน ตามด้วยเมื่อกลางปีทะยานชิงยูโร 2020 อีกต่างหาก เรียกว่าใกล้เคียงมาก เพราะแพ้อิตาลียิงจุดโทษตัดสินด้วย
จริงอยู่ที่ว่าทัวร์นาเม้นต์เนชั่นส์ ลีกโคตรแย่เลย จมบ๊วยอย่างไม่สมควร จนต้องโดนปรับตกชั้นไปเล่นในกลุ่มบีฤดูกาลหน้า มันต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
ทว่าบางคนแสดงความเห็นแบบต่างออกไป ทัวร์นาเม้นต์อย่างนี้ไม่ต้องโฟกัสก็ได้ ชาติใหญ่ในยุโรปมากมาย ก็ไม่ได้เน้นเท่าไรนัก ไม่อย่างนั้นจะเอาหมดทุกทางนักเตะกรอบเป็นข้าวเกรียบแน่เลย
เอาไว้ศึกใหญ่ค่อยใส่แบบเต็มสูบดีกว่า ถ้ายังไม่ดีขึ้นค่อยประเมินผลกันจากตรงนั้น
แน่นอนสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ไม่ได้บ้าจี้ตามไปด้วยหรอก ยังไงก็ไว้ใจให้เซาธ์เกตกุมบังเหียนต่อไป แล้วค่อยมาว่ากันหลังจบฟุตบอลโลก
พลันที่รายชื่อ 26 นักเตะถูกเผยโฉมออกมา เสียงไม่ค่อยพอใจดังอีกตามเคย ทำไมคนนั้นหลุด ทำไมคนนี้ติดมาล่ะ ผลงานในสโมสรก็ไม่ไหว เอาเกณฑ์อะไรมาชี้วัดกัน มีเส้นสายเด็กเจ้านายกันบ้างหรือเปล่า
คำถามอย่างนี้มันช่างกวนใจเซาธ์เกตอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เขาไม่จำเป็นจะต้องมานั่งตอบทั้งหมด ในเมื่อตัวเองเป็นผู้จัดการทีม มีอำนาจตามบทบาทหน้าที่ สุดท้ายถ้าไม่ดีจริง ก็เป็นเขานี่แหล่ะต้องรับผิดชอบ
ด้วยความที่ยกทัพไปกาตาร์ไม่ค่อยดูพร้อมสักเท่าไร นั่นทำให้เกมแรกกับอิหร่านถูกทำนายไว้ว่า ไม่น่าจะชนะขาดหรอก แค่คว้าชัยได้ก็โอเคแล้ว เป็นการเริ่มต้นด้วย 3 คะแนนก่อน
ขณะเดียวกันเมื่อเห็น 11 คนแรกที่ลง พร้อมระบบ 4-3-3 หรือสลับด้วย 4-2-3-1 บางจังหวะ ก็ยิ่งสร้างความกังวลให้แฟนๆอีก เพราะไม่วางใจ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ซึ่งเหมาะกับระบบเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คนมากกว่า
อิหร่านเองก็ไม่ธรรมดาเลย อาจมาจากเอเชียก็จริง แต่ฟุตบอลโลกครั้งก่อน ทำแสบเอาเรื่องจวนเจียนผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์แล้ว พลาดในโค้งสุดท้ายน่าเสียดาย ไหนจะแร้งกิ้งฟีฟ่าก็สูงถึงอันดับ 20 อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง
แข้งอังกฤษ ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม
แต่พอเอาเข้าจริง อังกฤษโชว์ให้เห็นโลกรู้เลยว่า คลาสยังต่างระดับจากกันพอสมควร แข้งสิงโตต่อบอลเท้าต่อเท้าอย่างแม่นยำ เคลื่อนไหวกันอย่างสมดุล ตรงกลางแน่นมากๆเมื่อได้ เดแคลน ไรซ์ มารวมพลังกับ จู๊ด เบลลิ่งแฮม
ต้องยอมรับเด็กหนุ่มอย่าง จู๊ด วัยเพียงแค่ 19 ปี แต่มีพาวเวอร์ในแดนกลางเหลือล้นอย่างยิ่ง ทำงานหนักทั้งรุกและรับ วิ่งแทบไม่มีหมดเลย รวมถึงเบิกร่องด้วยการโขกอย่างเฉียบขาด
พอประตูแรกมาแล้ว หลังจากนั้นก็หลั่งไหลดั่งสายน้ำที่หลุดมาจากเขื่อนแตก อิหร่านต้องเปิดเกมบ้าง นั่นนำไปสู่รอยโหว่ในแผงหลัง ซึ่งปกติก็ย่ำแย่จากการเสีย อลิซาเร ไบรานวานด์ ผู้รักษาประตูมือ 1 ไปตั้งแต่ต้นเกม
แนวรุกต้องยกนิ้วให้ แฮร์รี่ เคน ผู้เป็นเหมือนเสาค้ำยันหรือเซ็นเตอร์เลย ในฐานะกัปตันทีม ปลอกแขนที่รัดอยู่มันกระตุ้นให้ตื่นตัวเสมอและยินดีทำเพื่อชาติ ไม่ได้สนใจทำลายสถิติยิงสูงสุดตลอดกาล ซึ่งใกล้จะแซงหน้า เวย์น รูนี่ย์ เต็มทีแล้ว
เขาจึงไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตู แต่การได้ 2 แอสซิสต์ พอจะยืนยันถึงความยอดเยี่ยมได้ไม่แปรเปลี่ยนเลย
บูกาโย่ ซาก้า เป็นอีกคนที่ฟอร์มแจ่มจริง นอกเหนือจากสอยคนเดียว 2 ประตู ยังทำหน้าที่ฉีกแนวรับอิหร่านเป็นริ้วๆอีกด้วย ได้บอลแต่ละทีมักสร้างโอกาสเสมอ
รวมถึงพวกสำรองที่เปลี่ยนลงมาทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด , แจ็ค กรีลิช และ ฟิล โฟเด้น ก็ไม่ได้ลดทอนศักยภาพเท่าไรเลย เช่นเดียวกับ คัลลั่ม วิลสัน ทั้งหมดช่วยกันทั้งยิงบวกแอสซิสต์ จนทำให้อังกฤษยิงถึงครึ่งโหลเลย
เหนืออืนใดเกมรับที่พอฝากความหวังไว้ แม็กไกวร์ ไม่ได้เป็นตัวถ่วงอย่างที่ชอบเข้าใจกัน เหมือนถูกจับผิดมากเกินจริงมาตลอด
เป็นอีกครั้งที่แสดงให้รู้ว่า ในสีเสื้อสโมสรอาจไม่ดีเท่าไร แต่เมื่อรับใช้ชาติทีไรมักไม่ก่อความผิดพลาด อีกทั้งทำ 1 แอสซิสต์และเกือบยิงได้ หากลูกโขกไม่แม่นเกินชนคาน
ทั้งหลายทั้งปวงอย่าลืมเครดิต เซาธ์เกตซึ่งกู้ชื่อกลับมาได้อย่างสวยงาม แม้บางคนจะบอกว่าให้ดูไปก่อนเหลืออีก 2 เกมรอบแบ่งกลุ่ม
อย่างที่ชอบพูดกัน เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ถึงตรงนี้อังกฤษคงไม่พลาดรอบ 16 ทีมสุดท้ายหรอก
ส่วนจะไปได้ไกลแค่ไหน ไว้ค่อยตามดูกัน คำตอบอีกไม่นาน