เมื่อขุนค้อนโดนชะตากรรมเล่นงาน ( เวสต์แฮม ยูไนเต็ด )

สองฤดูกาลที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ดเลยทีเดียว

เดอะ แฮมเมอร์สจบด้วยอันดับ 6 และ 7 ตามลำดับ โชว์ให้เห็นมาตรฐานแบบชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แกว่งไปมาเหมือนเอาแน่นอนไม่ได้

สำหรับทีมระดับกลาง การคงมาตรฐานให้เสถียรเข้าไว้ มันมีความหมายอย่างมาก ประเภทดีแค่ซีซั่นเดียว จากนั้นต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อหนีตกชั้น คงบอกอะไรมากไม่ได้

แล้วในปัจจุบันเมื่อขุนค้อนได้เปลี่ยนจากอัพตัน พาร์ค มาใช้ลอนดอน สเตเดี้ยมเป็นสังเวียนรังเหย้าแห่งใหม่ นั่นช่วยยกระดับให้ดีขึ้นอีก แฟนบอลเข้ามาชมเกมหนาแน่นมาก ค่าตั๋วและสินค้าที่ระลึกพุ่งมากกว่าเดิม

ไม่แปลกที่เวสต์แฮมจะมีรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ จึงมีเงินหมุนเวียนใช้จ่ายซื้อผู้เล่นเจ๋งๆ มาช่วยต่อยอดให้ดีเข้าไปกว่าเดิมอีก

หากพูดกันแบบตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อมอะไรมาก บรรดาแฟนๆอยากเห็นทีมได้เข้าร่วมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกสักครั้ง แม้จะรู้ดีว่านี่คือภารกิจอันแสนยากมากที่จะติดท็อปโฟร์ได้

ในยุคที่พรีเมียร์ลีก อัดแน่นไปด้วยเสือ สิงห์ กระทิง ปีศาจมากมาย การแข่งขันยิ่งทวีความดุเดือด

แล้วไม่ใช่เวสต์แฮมทีมเดียวที่มีกำไรเพิ่ม รายได้งดงาม สโมสรอื่นก็มีตัวเลขที่พุ่งขึ้นมา สำคัญที่สุดคือ ยังไงก็ยังเทียบกับพวกบิ๊กซิกซ์ไม่ได้อยู่ดี

แต่พวกเขามีความฝันอันเจิดจ้า นี่คือสโมสรที่เต็มไปด้วยแฟนบอลระดับคุณภาพ ซื่อสัตย์ภักดีไม่เคยเปลี่ยน แม้ในวันที่ล้มลงจมอยู่ข้างล่าง เสียงเชียร์ก็ยังดังกึกก้องเสมอ

เสียงเพลง I’m Forever Blowing Bubbles ก็ยังคงกระหึ่มไม่เปลี่ยน ฟังก่อนหรือระหว่างเกมครั้งใด มันช่วยสูบฉีดเลือดให้พล่านเลยทีเดียว

เวสต์แฮมจึงเป็นทีมที่มีเสน่ห์ รวมทั้งมีสตอรี่ในอดีตที่ควรค่าแก่การเล่าขาน เข้าใจว่าทุกสโมสรล้วนมีรากเหง้าหรือประวัติศาสตร์ของตน แต่ของขุนค้อนมันน่าติดตามจริง

จุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

นับตั้งแต่ได้ เดวิด มอยส์ มาคุมทีมในช่วงปี 2019 อะไรต่อมิอะไรดีขึ้นจริงๆ เหมือนคนนี้แหล่ะคือผู้จัดการที่ใช่ ทำทีมอย่างมีเอกลักษณ์ บ่งบอกตัวตนของความเป็นแฮมเมอร์สอย่างแท้จริง

ว่ากันว่าซีซั่น 2015/16 ภายใต้การคุมทีมของ สลาเวน บิลิช สร้างความสุขให้กับบรรดาเดอะ แฮมเมอร์สมากๆ อย่างน้อยการจบด้วยเลขตัวเดียว มันก็ทำให้พวกเขาเดินยืดได้กว่าเดิม

แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็น มอยส์ ซึ่งมีความเข้าใจฟุตบอลอังกฤษยิ่งกว่า สั่งสมประสบการณ์มายาวนาน สายตาที่แฟนๆมองมา จึงเต็มไปด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ

มันทำให้พวกเขาหวนนึกไปถึงในอดีต ฟุตบอลเล่นด้วยดุดันเร้าใจและสามารถคาดหวังกับความสำเร็จชนิดจับต้องได้

ต้องย้อนไป 35 ปีก่อน 1985-86 เป็นช่วงที่ขุนค้อนสร้างแรงสั่นสะเทือนได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยเกมรุกอันทรงพลัง จนหวิดจะได้ลุ้นแชมป์

ช่วงดังกล่างขุนค้อนเคยทำสถิติไม่แพ้ติดต่อกันในลีก 18 เกม เบื้องหลังผลงานอันน่าทึ่งมาจากทีมสิปริตอันแข็งแกร่ง อัลวิน มาร์ติน กัปตันทีมในช่วงดังกล่าวเป็นเซ็นเตอร์ของทีม มักจะเรียกเพื่อนๆมาประชุมทำความเข้าใจอยู่เสมอ

พวกเขายังไล่ล่าคว้าชัยชนะถึง 8 เกมติดต่อกัน แฟร้ง แม็คเอเวนนี่ ซึ่งกระชสากมาจากเซนต์ มีร์เรนด้วยค่าตัว 350,000 ปอนด์ คือดีลที่คุ้มค่ามากๆ เพราะซัดประตูระเบิดเถิดเทิง

บทความที่เกี่ยวข้อง
ท็อตแน่มก็แค่ท็อตแน่มนั่นแหล่ะ! ( ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ )

แม็คเอเวนนี่ ล่าตาข่าย 26 ประตูในลีกอย่างเดียว เขาจับคู่กับ โทนี่ ค็อตตี้ ได้อย่างลงตัว

ค็อตตี้ กองหน้าร่างเล็กหุ่นแบบมะขามข้อเดียว ปราดเปรียวจัดจ้าน จมูกไวอย่างมากในกรอบเขตโทษ ยามที่จับคู่กับ แม็คเอเวนนี่ จะเกิดสมดุลอย่างดี

ขณะเดียวกันการหายบาดเจ็บกลับมาของ อลัน เดวอนเชียร์ ในรอบกว่า 1 ปีก็ส่งผลให้แดนกลางของเวสต์แฮมแน่นขึ้นมา ด้วยพละกำลังอันเหลือเฟือ รวมถึงไหวพริบอันยอดเยี่ยม เป็นความลงตัวระหว่างกำลังกับมันสมอง

เมื่อบวกกับ โทนี่ พาร์คส์ ผู้รักษาประตูมากประสบการณ์ โทนี่ เกล ปราการหลังแกร่งดั่งหินผา ขุนค้อยเลยมีลุ้นแชมป์ลีกสูงสุด

แม้สุดท้ายจะจบแค่อันดับ 3 แต่นั่นคือช่วงเวลาที่แฟนบอลมีความสุขมากๆ ได้แต่หวังอยากได้เจออีกสักครั้ง ซึ่งพอจะเห็นวี่แววก็ในยุคนี้แหล่ะ

กระนั้นพอตัดภาพมาปัจจุบัน แล้วมันไม่ใช่เลย

ขุนค้อนจมอยู่อันดับ 18 ของตาราง มีคะแนนเท่ากับทีมบ๊วยอย่างเซาธ์แฮมป์ตัน เรื่องแชมป์เลิกพูดไปได้เลย ขอแค่เอาตัวรอดไม่ต้องตกชั้นเป็นพอ

8 นัดหลังสุดทุกรายการ ชนะเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น แถมตกรอบฟุตบอลลีกคัพเรียบร้อย สถานการณ์ทรุดหนักกว่าเดิม

จนมีข่าวเล็ดรอดมาว่า หากวันเสาร์นี้โดนเอฟเวอร์ตันคู่แข่งหนีตาย บุกมายัดเยียดความปราชัยได้อีก เดวิด มอยส์ ที่เคยเป็นไอดอลของแฟนๆ จะโดนเชือดแน่

ปัญหาเวสต์แฮมเกิดจากคุณภาพผู้เล่นที่หล่นลงไปพร้อมๆกัน หลายคนที่เคยเด่นกลับแย่ลง เดแคลน ไรซ์ ซึ่งเป็นคีย์แมนมาตลอดแบกไม่ไหว พวกกองหน้าก็ปืนฝืด

เคยเชื่อมั่น มิกาแอล อันโตนิโอ ก็ไม่คมเหมือนก่อน จานลูก้า สกามัคก้า ก็ต้องใช้เวลาปรับตัว จนสุดท้ายต้องไปดึง แดนนี่ อิงส์ มากู้วิกฤต

จากที่เคยวาดหวังว่าต้องมีอะไรสักอย่างติดไม้ติดมือ ยกระดับตัวเองขึ้นมา แฟนเวสต์แฮมได้แต่น้อยใจในโชคชะตา มันกลับมาวนลูปอีกแล้วหรือ

น่าเห็นใจกองเชียร์เหล่านี้ แต่ในอีกทางมันคือโลกความจริงที่พวกเขาต้องเผชิญหน้า ห้ามหนีอย่างเด็ดขาด