ต้องให้ เทนฮาก แมนยู เสริมก่อนตลาดปิด! บิ๊กแมตช์ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมจบลงอย่างดุเดือดเร้าใจ พร้อมชัยชนะของอาร์เซน่อล ที่ต้องยอมรับว่าพวกเขาสมควรได้รับแล้ว
ถึงตรงนี้ต้องบอกว่า พวกเขามีลุ้นแชมป์แบบเต็มตัว ปราศจากข้อกังขาใดๆและคงห้ำหั่นขับเคี่ยวกับแมนฯซิตี้อย่างสนุกแน่ ในช่วงครึ่งทางที่เหลือ
ส่วนแมนฯยูไนเต็ดสู้กับเจ้าบ้านเต็มที่แล้ว ด้วยสภาพที่เป็นรองหลายอย่าง ความพร้อมตัวผู้เล่น ขุมกำลังเชิงลึกหรือโปรแกรมที่โดนยัดมาจนแน่น ปราชัยในลักษณะนี้ ไม่มีอะไรต้องฟูมฟายเสียใจกันนัก
เรื่องของการกลับมาเป็นแชมป์อีกครั้ง ยังไกลเกินกว่าจะพูดถึงกัน นั่นเป็นเรื่องอนาคตหรือในซีซั่นถัดไป
เพียงแต่มันไม่ได้ไกลเกินกว่าจะเอื้อมถึงเหมือนอย่างยุคก่อน ที่แทบมองไม่เห็นความหวังหรือแสงสว่างปลายอุโมงค์กันเลยทีเดียว
ยังมีปัญหาให้ต้องแก้ไขหรือหาทางออกกันอีกพอสมควร โดยเฉพาะในส่วนขุมกำลังที่ยังต้องการเวลาปรับแต่งเพื่อลุ้นความสำเร็จแบบเต็มขั้น
รอน คีน อดีตกัปตันทีม ซึ่งรับบทผู้สันทัดกรณีวิเคราะห์เกม แสดงความเห็นไว้ในเรื่องนี้อย่างน่าฟัง
จากที่ปกติมักจะโจมตีทีมมาตลอด ยิ่งในช่วง ราล์ฟ รังนิก เป็นกุนซือด้วยแล้ว เรามักได้ยินบ่อยมาก
คีน ยังอดไม่ได้ชื่นชมแนวทางของ เอริก เทนฮาก ที่สามารถปรับเปลี่ยนบางอย่างได้ดีเกินคาด แถมยังใช้เวลาไม่นานเท่าไรนัก ก็เห็นผลกันแล้วในตอนนี้
แต่หลักใหญ่ใจความอยู่ที่กำลังพลเชิงลึก ซึ่งก็หมายถึงว่าคุณต้องมีขนาดทีมใหญ่พอและคุณภาพนักเตะสามารถทดแทนกันสบาย ในลักษณะที่แทบมองไม่เห็นความแตกต่าง
นอกจากนี้ยังรวมถึงนักเตะที่มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถสร้างเอฟเฟ็คต์ในเชิงบวก มันจำเป็นต้องพัฒนาหรือเฟ้นหามาประคับประคอง
“ผมมองไปที่ม้าสำรองในช่วง 20 นาทีสุดท้าย มันมองไม่เห็นอ็อปชั่นที่น่าสนใจเลย”
คีน คอนเมนต์ไว้อย่างนี้ ในความหมายของอ็อปชั่นก็คือ ผู้เล่นที่เปลี่ยนลงไปแล้วจะช่วยทีมได้ดีขึ้น สามารถยกระดับหรือกอบกู้สถานการณ์ได้
ลำพังการไร้ กาเซมีโน่ ติดโทษแบน คุมในแดนกลางก็ว่ายากลำบากอยู่แล้ว พอตัวสำรองเกรดไม่ถึง มันก็ยิ่งสร้างความลำบากใจให้ เทนฮาก หนักกว่าเดิมอีก
ความเห็นของ คีน ถูกต้องอย่างยิ่ง ตลาดนักเตะเดียวในช่วงซัมเมอร์ไม่พอหรอก ส่วนตลาดเที่ยวนี้ ฝ่ายบริหารก็อ้ำอึ้ง เหมือนพวกน้ำท่วมปาก บอกว่าไว้โฟกัสที่ซัมเมอร์ มันก็ทำงานให้ได้ตามเป้ายากอีก
ลองหันกลับไปดูอาร์เซน่อลสิ พวกเขาอาจจั่วลม มิไคโฮ มูดริค ที่เลือกย้ายไปเล่นให้เชลซีก็จริง แต่ก็รีบเสริมหนักด้วย เลอันโดร ทรอสซาร์ กองหน้าจากไบรท์ตันที่ยอมจ่ายเกือบ 30 ล้านปอนด์
นอกจากนี้ยังได้ ยาคุบ คีวีออร์ เซ็นเตอร์แบ็กทีมชาติโปแลนด์มาจากสเปเซีย ที่ยินดีจ่ายราว 25-30 ล้านยูโร เพื่อนำเข้ามาเป็นอีกทางเลือกในตำแหน่งนี้อีกด้วย เผื่อเหลือเผื่่อขาดมีใครบาดเจ็บขึ้นมา
จอช โครนเก้ ผู้บริหารของปืนโต เล็งเห็นแล้วว่าโอกาสทีมกำลังเข้าฝักอย่างนี้ ควรรีบอัดให้หนักแน่นยิ่งกว่าเดิม ตลาดเปิดอยู่แถมมีเงินให้ใช้ ก็ทำให้เกิดประโยชน์ซะ
พวกเขาใช้เงินต่อเนื่องมาตั้งแต่ซัมเมอร์ 2021 แล้ว ช็อปรวมไม่น้อยไปกว่าใคร อาจเป็นรองแค่เชลซี เพราะรู้ดีว่าการซื้อผู้เล่นที่มีคุณภาพ ผ่านการคัดกรองจากทีมงาน จะช่วยได้เยอะเลย
เอริก เทนฮาก แมนยู ต้องเสริมแข่งให้แน่นขึ้น
ส่วนปีศาจแดงใช้ไปตลาดซัมเมอร์ล่าสุดราว 230 ล้านปอนด์ แล้วบอร์ดกลับมองว่าเยอะมาก จำต้องเบรกไว้ เที่ยวนี้เลยเหลือเพียงแค่ยืม เว้าท์ เวกฮอร์สท์ เท่านั้นเอง
ถามว่าพอหรือเปล่า? แฟนผีคงอยากจะตะโกนพร้อมกันว่า “ไม่” เพราะเห็นกันอยู่แล้วว่า ต้องเติมเข้ามาอีกพอสมควร
ผู้เล่นเกินกว่าครึ่งที่คลาสไม่ถึงสำหรับการลุ้นความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลีก ที่จำต้องรักษามาตรฐาน ยืนหยัดให้นานที่สุด ไม่ใช่เล่นแบบสามวันดีสี่วันป่วยไข้
ถ้าเป็นไปได้ก่อนตลาดปิด เลือกหาผู้เล่นที่คิดว่าจะมีประโยชน์เข้ามาอีกสักราย ทั้งแดนหน้าและตรงกลางคือรูโหว่ที่เห็นชัดขึ้น
ในยามที่ไม่มี กาเซมีโร่ คอยปักหลักหน้าแบ็กโฟร์ จะเห็นร่องรอยอย่างชัดเจน โดนทะลวงง่ายมาก สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด ผ่านการพิสูจน์มานักต่อนักแล้ว ซึ่งควรจะสรุปอย่างชัดเจนเลยก็คือแทนไม่ได้หรอก
บทความที่เกี่ยวข้อง เดวิด เบ็คแฮม กับดีลแห่งประวัติศาสตร์
แนวรุกก็เช่นเดียวกัน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เจ็บออดแอดเหลือเกิน เล่นไม่กี่นัดก็ต้องขึ้นเตียงพยาบาลแล้ว จำต้องเสาะหากองหน้าชั้นดีเข้ามา ไม่ปล่อยภาระให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด มากเกินไป
เวกฮอร์สท์ ไม่ใช่คำตอบหรอก มาเป็นเพียงแค่แก้ขัดเท่านั้นเอง เป็นการแก้ปัญหาจากข้อจำกัดที่มีอยู่
อย่างที่ รังนิก เคยอธิบายเป็นฉากๆเอาไว้ แมนฯยูไนเต็ดต้องการอีก 3-4 ตลาด เพื่อไปสู่จุดที่ได้ลุ้นความสำเร็จ ดังนั้นเวลาคือสิ่งที่จำเป็น เช่นเดียวกับงบประมาณด้วย
น่าเสียดายที่ก่อนหน้า ฝ่ายบริหารอย่าง เอ็ด วู้ดเวิร์ด ลงมาวุ่นวายกับการซื้อขายหรือต่อสัญญาผู้เล่นเอง จนโคงสร้างแทบพัง แถมยังเสียเงินโดยไม่จำเป็น ทิ้งมรดกอันเน่าเฟะ ไว้ให้ เทนฮาก ต้องตามแก้ไขในเวลานี้
หากบอร์ดคิดว่า ตลาดยังพอเหลือเวลาให้ขยับขยาย ก่อนเส้นตายในวันที่ 31 มกราคมจะมาถึง ก็ควรรีบจัดการซะ
ไม่อย่างนั้นจะต้องมารับฟังเสียงคร่ำครวญฟูมฟาย เสียดายโน่นนี่กันภายหลังอีก เมื่อมีโอกาสแล้วควรต้องลงมือ
อย่ามัวแต่เหนียวหนืด ในสิ่งที่ไม่จำเป็นและช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้เลย
