บางคนอยู่ไปจนสิ้นอายุขัย ก็ยังหาปรัชญาให้กับชีวิตตนเองไม่ได้ แม้จะร่ำเรียนมาสูงแค่ไหน ความก้าวหน้า ความสำเร็จของชีวิตก็หาไม่เจอ แต่บางคน ใช้ชีวิตไปเรียนรู้ไป
ก็นับว่าเอาตัวรอด แต่บางคน เมื่อตกผลึกถึงแก่นแท้ของชีวิตแล้ว ก็เผื่อแผ่แบ่งปันเพื่อนมนุษย์โดยที้ไม่หวังผลตอบแทน
เซียนแปะโรงสี ที่วัด ศาล เจ้า อาจจะเป็นคนที่ว่านั้น เป็นคนที่ให้โดย ไม่หวังผลตอบแทน ยกเว้นธุรกิจของตนที่เรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จ
เซียนแปะโรงสี คือใคร?
คนทั่วไปมักจะรับรู้เรื่องราวของ เซียนแปะโรงสี ว่า หากใครที่ทำมาค้าขาย หรือทำธุรกิจแล้วไม่รุ่งเรือง ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด ให้ลองไปกราบไหว้ เซียนแปะโรงสี ไปขอพรหรือการงาน การค้า
ขอยันต์ฟ้าประทานพร ยันต์ชื่อดังประจำตัวของอาแปะโรงสีมาบูชา ชีวิตจะรุ่งเรืองขึ้นอย่างแน่นอน จริงๆ แล้ว เซียนแปะโรงสีนั้น
อพยพมาจากเมืองจีนตั้งแต่อายุได้ 10 ขวบ ชื่อ กิมเคย แซ่โง้ว บ้างก็ออกเสียงว่า โง้วกิมโคย มาเริ่มชีวิตที่เมืองไทยด้วยอาชีพรับจ้างทั่วไป เป็นคนขยันขันแข็ง จากรับจ้างทั่วไป
ก็เริ่มมาค้าข้าวเปลือก พอกิจการดีขึ้นก็ขยับขยาย จากซื้อขายข้าวเปลือกมาตั้งโรงสีขายข้าวสารที่ปากคลองเชียงราก เยื้องกับวัด ศาล เจ้า
เซียนแปะพอตั้งรกรากได้ก็มีครอบครัวเปลี่ยนชื่อเป็นคนไทย ชื่อ นที ทองศิริ โรงสีข้าวที่ว่านั้นก็ชื่อโรงสีไฟทองศิริ
ที่มาของชื่อ เซียนแปะ
เซียนแปะโรงสีนั้นว่ากันว่า มีความเชี่ยวชาญใน ศาสตร์ ฮ วง จุ้ย ได้รับการยอมรับนับถือจากบรรดานักธุรกิจทั้งหลาย ที่ใครต้องการสร้างกิจการ หรืออยากให้ไปปรับเปลี่ยนทำเลค้าขาย หรือแนะนำให้เลือกที่ตั้งทำธุรกิจ
ก็มักจะมาหาอาแปะให้ไปช่วยดูให้ คำว่า “เซียนแปะ” ก็น่าจะมาจากตรวจนี้ เพราะส่วนใหญ่ที่ทำตามคำแนะนำของอาแปะ ก็ทำธุรกิจเจริญรุ่งเรืองกันทุกคน
แล้วอาแปะก็ไม่ได้เกี่ยงงอนกับการเดินทางไปดูให้ ไปถึงต่างประเทศก็เคยมี เครื่องเซ่นเครื่องไหว้ บางครั้งก็เตรียมไปให้เสียด้วยซ้ำ และที่สำคัญเซียนแปะ ดูฮวงจุ้ยให้แบบไม่คิดเงิน
นั่นก็ยิ่งทำให้เกิดศรัทธาต่อเซียนแปะมากขึ้น จนมีคำร่ำลือว่า เซียนแปะมีองค์ ก็ก็น่าจะเป็นองค์เทพเจ้าที่มาจากศาลเจ้าที่วัดนั่นเอง
แล้วก็มีเรื่องเล่ากันมาว่า วัด ศาล เจ้านั้น ทั้งวัดและศาลเจ้า เป็น เจ้าน้อยมหาพรม บุตรเจ้าเมืองน่าน ผู้มีวิชาอาคม ได้ล่องเรือมาถึงวัดมะขาม (ปัจจุบันอยู่ติดๆ กับวัด ศาล เจ้า) ได้มาพบกับ พระอาจารย์รุ
ทั้งสองลองอาคมกัน ทำให้เจ้าน้อยมหาพรหม เลื่อมใส ขอสร้างวัดกับศาลเจ้า(ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี)
คำสอนที่เซียนแปะทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง
แต่สิ่งที่อยู่เหนืออื่นที่เซียนแปะโรงสี ทิ้งเอาไว้ หลังจากเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2526 ก็คือ คำสอนที่ประกอบกับยันต์ฟ้าประทานพร
หรือการกราบไหว้ขอพรให้เซียนแปะโรงสีช่วยเหลือให้ทำมาค้าขึ้น เพราะถ้าทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เซียนแปะโรงสีพร่ำสอน ต่อให้กราบไหว้ขอพรเป็นร้อยเป็นพันครั้ง
ก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จพาธุรกิจเจริญก้าวหน้าได้อย่างไร เซียนแปะโรงสี ชี้ให้เห็นว่า ชีวิตคนเรานั้นมีความไม่แน่นอน เพราะฉะนั้น อย่าได้ประมาทกับการใช้ชีวิต รวยได้ก็จนได้
ถ้าไม่เห็นค่าของเงิน ดังที่เซียนแปะโรงสีได้เปรียบเปรยไว้ว่า “ตอนที่นก ยังมีชีวิตอยู่ มันจะกินหนอนเป็นอาหารแต่เมื่อมันตายไป นกก็ถูกหนอนกินเป็นอาหารเหมือนกัน”
ก็เหมือนกับที่เซียนแปะเปรียบเปรยถึง ไม้ขีดไฟกับต้นไม้ ว่า
ต่อให้มีต้นไม้ที่เอาไปทำไม้ขีดไฟได้มากมายแค่ไหน ไม้ขีดเพียงก้านเดียวก็เผาผลาญต้นไม้ได้มากมายเช่นกัน
แล้วก็สอนว่า อย่าได้ดูถูกคน ซึ่งในเรื่องการทำธุรกิจนั้นสำคัญมากๆ เพราะการด้อยค่าคนอื่น คือจุดเริ่มต้นของความล้มเหลวของธุรกิจ ใครจะรู้ว่า ลูกค้ารายเล็กๆ นั้นวันหนึ่ง จะกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ และอย่าได้คิดว่า
เงินทองนั้นสำคัญเสมอไป เพราะหากวันหนึ่งกำลังจะจมน้ำ ท่อนไม้ที่ลอยมา ย่อมมีค่ามากกว่าทองคำ
คำสอนของเซียนแปะโรงสีจึงมีคว่ามากกว่าทองคำ แต่การไปกราบไหว้ หรือมียันต์ฟ้าประทานพรติดตัวไว้ ก็ทำให้เตือนสติให้รำลึกถึงคำสอนของเซียนแปะโรงสี ที่ชีวิตไม่ได้เริ่มจากความสุขสบายมั่งคั่ง หากแต่เอาแรงเข้าแลก เอาความมุมานะเรียนรู้จนได้มาซึ่งการยอมรับนับถือจากผู้คน
ทุกวันนี้ ยันต์ฟ้าประทานพร ก็ยังคงมีผู้ที่อยากจะได้ไปพกติดตัวหรือเอาไว้เป็นสิริมลคลเสริมฮวงจุ้ยให้กิจการร้านค้า โดยมีความเชื่อเรื่องจำนวนยันต์ที่อยู่ในผืนผ้าที่เรียกว่า “กา” จำนวน “กา” ก็จะเหมาะกับกิจการร้านค้า หรือชนิดของการทำมาหากิน เช่น กิจการก่อสร้าง การแพทย์ ก็ต้องมี 7 กา แต่ถ้าพกติดตัว “1 กา” ก็พอ
บทความที่เกี่ยวข้อง เปิดตำนาน พระราหู วิธีการ ไหว้ พระราหู การ บวงสรวง
เทคนิคเล็กๆการกราบไหว้เซียนแปะโรงสี
ด้วยชื่อเสียงของเซียนแปะโรงสี ก็เลยทำให้ผู้คนมากราบไหว้ เพื่อขอพรเรื่องการเงิน การงาน การทำธุรกิจให้เจริญรุ่งเรืองก็จะมีคำแนะนำว่า ขอพรนะ ห้ามไปบนบานศาลกล่าว
แต่ก็มีคนเอาหุ่นจระเข้มาเซ่นไหว้ แต่ก็มีวิธีการขอพรที่เขาแนะนำกันไว้อยู่เหมือนกัน เช่น ถ้าจะเอาผ้ายันต์ฟ้าประทานพรไปพกหรือไปแขวน
ก็ต้องจุดธูปบอกกล่าวกันเสียก่อน เวลาแขวนผ้ายันต์ที่ร้านก็ต้องหันออกไปด้านหน้าร้าน นำกิมฮวย 1 คู่ ติดตรงกลางด่านล่างของรูปและปักธูปไม่จุด 5 ดอก และแขวนพวงมาลัย 1 พวง
มีคำแนะนำอีกว่า การไหว้ เซียนแปะโรงสีนั้น จะไหว้วันชิวโหงว คือ วันที่ห้า ของวันตรุษจีน ซึ่งเป็นวันที่เจ้ากลับลงมาจากสวรรค์ อธิฐานว่า เทียน กัว สื่อ ฮก โหงว ลี่ ขอให้ฟ้าประทานพร โชคลาภ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว