เซาธ์เกตกุนซือ ในทัวร์นาเม้นต์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกที่ผ่านมา ทีมชาติอังกฤษทำผลงานได้น่าผิดหวังอย่างแรง
พวกเขาเสมอ 3 และแพ้อีก 3 จาก 6 เกทด้วยกัน รวมแล้วมีเพียงแค่ 3 คะแนน ต้องถูกลดชั้นไปอยู่คลาส B ในฤดูกาลหน้า
จริงๆรายการนี้ไม่ได้สลักสำคัญอะไรนักหรอก ยูฟ่าผุดไอเดียขึ้นมา เพื่อเป็นแรงจูงใจให้พวกชาติใหญ่ๆ เน้นในเกมอุ่นเครื่องมากขึ้น ไม่ใช่เล่นกันแบบซังกะตาย เลยหาแนวมาสอดแทรกหน่อย
เลยมีเงินรางวัลและโบนัสต่างๆ มาเป็นตัวล่อเสริมเข้ามา แต่ถึงเวลาจริง ก็ไม่ได้ช่วยอะไรนัก เพราะพวกผู้เล่นต่างกรำศึกจนล้า ไม่มีอารมณ์สนแชมป์เหล่านี้นักหรอก
แต่สำหรับแฟนบอลอังกฤษแล้ว การพ่ายรูดเป็นส่วนใหญ่ แถมตกชั้นอีกนี่ มันหมายถึงการเสียฟอร์ม โดนฉีกหน้า เป็นถึงรองแชมป์ยูโรล่าสุด แล้วทำไมตกต่ำขนาดนี้
ด้วยศักดิ์ศรีที่มักเชื่อว่าชาติตัวเองเป็นเต้ยในเกมลูกหนัง รวมถึงดีกรีรองแชมป์ยูโรกับเข้าถึงตัดเชือกฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีก่อน พอมาตกอยู่ในชะตากรรมอย่างที่เห็น จึงคิดว่าไม่สมควรอย่างมาก
ตอนอังกฤษเสียทรงอย่างแรง โดนฮังการีบุกมาเหยียบจมูก 4-0 ในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก มีเสียงสนับสนุนมากมาย เพื่อบีบสมาคมฟุตบอลอังกฤษ จัดการเชือด แกเร็ธ เซาธ์เกต พ้นจากเก้าอี้ผู้จัดการทีมซะ ไม่คู่ควรจะได้นั่งต่อไป
ยังดีที่ว่าเอฟเอไม่ได้หวั่นไหวไปตามกระแสด้วย เพราะเข้าใจสถานการณ์ดีพอ รอฟุตบอลโลก 2022 ก่อนดีกว่า ไว้ค่อยประเมินผลงานกันตรงนั้น
ขณะเดียวกันเมื่อ เซาธ์เกต ประกาศรายชื่อ 26 แข้งสิงโตคำรามที่จะยกก๊วนบินสู่กาตาร์ แฟนบอลก็ยังคงหงุดหงิด พยายามโยงเหตุการณ์ต่างๆและจับผิดอีกเช่นเคย
มันแย่ตรงที่ ยังไม่ทันทำงานใหญ่เป็นเรื่องเป็นราว ก็โดนพิพากษาซะแล้ว ถือว่าไม่แฟร์เลยสำหรับกุนซือใหญ่
ข้อดีของ เซาธ์เกต คือค่อนข้างนิ่ง สุขุม เยือกเย็น ไม่ตื่นตระหนกไปกับเสียงรอบข้าง ยังคงยึดมั่นถือมั่นกับวิถีที่สร้างขึ้นมา
เซาธ์เกตกุนซือ ที่ถูกกดดันตั่งแต่เริ่มฟุตบอลโลก2022
อย่างเคสจะเอา แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไปด้วย ไม่ค่อยมีใครเห็นด้วยนัก แต่นี่คือนักเตะที่ร่วมหัวจมท้าย ฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่จะมองข้าม แม้ผลงานกับสโมสรจะตกลงพอสมควร
สุดท้าย แม็กไกวร์ ก็ตอบแทนความไว้วางใจของเจ้านาย ด้วยการโชว์ฟอร์มเด่นทั้ง 3 นัดจากรอบแบ่งกลุ่ม โดยเฉพาะนัดเสมอสหรัฐฯ แสดงให้เห็นเลยว่าดีพอ ไม่ใช่เป็นเด็กเส้นตามที่นินทากัน
จริงๆ เซาธ์เกต เป็นบอสที่ต้องเจอเสียงวิจารณ์หนักหน่วงเรื่อยมา นับตั้งแต่ก้าวขึ้นคุมชุดใหญ่ของทีมชาติอังกฤษ
เพราะโปรไฟล์ต่ำเกินกว่าจะรับตำแหน่งสำคัญนี้ เคยคุมแค่มิดเดิ้ลส์โบรช์และอังกฤษชุดยู-21 แล้วเด้งสปริงมาตรงนี้เลย ไม่ใช่เส้นสายใหญ่พอในสมาคมฟุตบอลอังกฤษ คงยากแน่ๆ
หลายคนเข้าใจว่าเอฟเออยากจะย้อนไปสู่เบสิก คือการใช้กุนซือที่เป็นอิงลิชด้วยกัน ไม่ใช่ต่างชาติอย่าง สเวน โกรัน อีริกส์สัน หรือ ฟาบิโอ คาเปลโล่ เพราะล้วนแต่ล้มเหลว ต่อให้เป็นพวกมือฉมังก็ตาม
การเป็นคนชาติเดียวกัน จะเข้าถึงเรื่องรายละเอียด วัฒนธรรมและภาษา ไม่ต้องมีอุปสรรคมากั้นขวาง
อีกอย่างสิงโตคำรามมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพยายามไปเลียนแบบฟุตบอลภาคพื้นยุโรปหรืออเมริกาใต้ โดยเฉพาะการต่อบอลเท้าต่อเท้าหรือแม้กระทั่งเพรสซิ่งแบบเข้มข้น
อย่างไรก็ตามเมื่อ เซาธ์เกต นำนาวาฝ่าคลื่นลม ผลงานยอดเยี่ยมในทัวร์นาเม้นต์เมเจอร์ เสียงด่าก็ค่อยคลายลง กระทั่งมาดังกระหึ่มอีกครั้งก่อนเวิลด์ คัพครั้งนี้จะเปิดฉากนั่นแหล่ะ
ลองนึกภาพดู หากอังกฤษล้มอิตาลีได้ในเกมนัดชิงยูโร 2020 ซึ่งเจะกันเมื่อกลางปีที่แล้ว เซาธ์เกต อาจไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์อย่างที่เห็น แชมป์ดังกล่าวคงกลายเป็นเกราะป้องกันอย่างดี
แต่เมื่อทำไม่สำเร็จ มันก็เหมือนต้องย้อนกลับมานับหนึ่งใหม่นั่นเอง คนเราไม่ค่อยจดจำอันดับสองหรือรองแชมป์หรอก
บทความที่เกี่ยวข้อง การกลับมาของ ทีมชาติอังกฤษ และ แกเร็ท เซาท์เกต
เจมี่ คาร์ราเกอร์ พูดถึงแฟนบอล
เจมี่ คาร์ราเกอร์ ผู้สันทัดกรณี แสดงความเห็นล่าสุดไว้อย่างน่าคิด โดยเตือนพวกแฟนบอลว่า เลิกตั้งข้อกังขาน่าสงสัยกับ เซาธ์เกต ได้แล้ว น่าจะปล่อยให้กุนซือทำทีมแบบไม่ต้องกดดันมากเกิน เห็นกันอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
สิ่งที่ควรทำคือสนับสนุนอย่างเต็มที่มากกว่า ไม่ใช่คอยจะงัดหอกมาทิ่มแทงทีมชาติตัวเอง
อีกทั้งยังชื่นชมแนวทางของ เซาธ์เกต ที่รับมือกับเรื่องนี้ได้ดีมาก บางคนอาจเต้นตามไปแล้ว แต่ไม่ใช่กุนซือรายนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นคุณสมบัติลักษณะดังกล่าวเรื่อยมา
แม้กระทั่งหลังจบเกมเสมอสหรัฐฯแบบโนสกอร์ ยังคงโดนตั้งคำถามอีกว่า ทำไมถึงไม่ใช้งาน โฟเด้น ซึ่งคงจะเหมาะกว่าสำหรับลงมาลุ้นโอกาส
แต่เขาก็ตอบชัดถ้อยชัดคำ ประเมินจากคู่แข่งแล้ว สไตล์ของ แจ็ค กรีลิช ดูจะเหมาะสมกว่า ซึ่งก็ต้องให้เกิยรติผู้จัดการทีม ซึ่งน่าจะรู้ดีกว่าใคร สื่อหรือแฟนบอลก็ควรเคารพเรื่องนี้
บางคนคอนเมนต์ว่า อังกฤษอยู่ในสายไม่แข็งเท่าไร อันนั้นก็คงแล้วแต่มุมมอง รวมถึงชี้ว่ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เจอกับเซเนกัล ไม่หนักเท่าไรด้วย ซึ่งมันอาจไม่ใช่เช่นนั้นเลย
เซเนกัลอาจไร้ ซาดิโอ มาเน่ ก็จริง แต่ผู้เล่นที่เหลือก็ค้าแข้งในลีกใหญ่ยุโรปเกือบทั้งนั้น แล้วมาถึงรอบนี้ ไม่มีใครยอมกันง่ายๆหรอก
ไม่ว่าอย่างไรหาก เซาธ์เกต พาสิงโตคำรามเข้ารอบลึกได้อีกสมัยหรือไปไกลถึงขั้นแชมป์
คุณจะใจดำไม่ให้เครดิตหรือเอ่ยปากชื่นชมกันเลยหรืออย่างไร?