ความเคลื่อนไหวของ หงส์แดง เวลานี้น่าจับตาดูอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องผลงานในสนามเท่านั้น
แต่การที่ FSG กลุ่มทุนซึ่งเป็นเจ้าของสโมสร ยืนยันพร้อมรับฟังข้อเสนอน่าสนใจจากเศรษฐีทั่วทุกมุมโลก ที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์ สร้างแรงสั่นสะเทือนเขย่าวงการได้อย่างมากเลยทีเดียว
เพราะมูลค่าของหงส์แดงปัจจุบัน ถูกประเมินไว้ราว 3.8 พันล้านปอนด์ หากมีการซื้อขายจริง บวกลบไม่น่าแตกต่างจากนี้เท่าไรนัก มันคือมหาศาลมากๆ
อีกทั้งยังต้องไม่ลืมด้วยว่า ลิเวอร์พูลไม่ได้มีหนี้สินมากมายอะไรนัก เจ้าของใหม่ไม่ต้องมาแบกรับภาระจุดดังกล่าวจนถึงขั้นน่าวิตกกังวล เหมือนตอนเคส ท็อดด์ โบลี่ห์ พร้อมพรรคพวกเข้ามาฮุบกิจการเชลซี
ในขณะเดียวกันสื่อบางแห่งยังคาดว่าตัวเลขจะมากกว่า 4 พันล้านปอนด์ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะถ้าเป็นพวกนายทุนจากตะวันออกกลาง ซึ่งมีทรัพย์สินอื้อซ่าจากธุรกิจน้ำมันและพลังงาน
ตอนนี้สโมสรในพรีเมียร์ลีกกำลังเป็นที่นิยมของรัฐหรือบิลเลี่ยนแนร์อาหรับ จะด้วยเหตุผลตอบสนองความต้องการหรือใช้ทีมฟุตบอลเป็นเครื่องมือบางอย่างก็แล้วแต่ มันคงไม่ต่างกันเท่าไรนัก
ส่วนเดอะ ค็อปจำนวนหนึ่ง เชื่อว่าการที่ FSG ต้องการขายทีม เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว ถึงเวลาสำหรับการเปลี่ยนแปลง หลังจากที่ครอบครองลิเวอร์พูลมายาวนาน 12 ปีเต็ม
ลงทุนแบบไม่สุดตัว ผลลัพท์ก็เป็นแบบนี้แหละ
เท่าที่ผ่านมา จอห์น เฮนรี่ หัวเรือใหญ่ฝ่ายบริหาร ไม่ได้ทุ่มเทแบบสุดๆอย่างที่ควรจะเป็น ตลาดซื้อขายผู้เล่นที่ผ่านมาสะท้อนความจริงนี้ได้เลย มันเกิดความผิดพลาด จนผลงานในลีกทรุดหนักลง แทบไม่ต้องพูดถึงลุ้นแชมป์ ได้แต่แย่งท็อปโฟร์เอา
ทีมเต็งลำดับ 2 รองแชมป์เมื่อซีซั่นก่อน กวาดชัยชนะอย่างบ้าครั้งในโค้งสุดท้าย สมควรอย่างยิ่งที่จะไล่บี้กับแมนฯซิตี้อย่างสมศักดิ์ศรี
ที่ไหนได้ผ่านยังไม่ถึงครึ่งทางดี แทบจะหมดลุ้นกันแล้ว อย่างนี้จะโยนความผิดให้ใครล่ะ ถ้าไม่ใช่เจ้าของ ซึ่งขาดการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
รู้ทั้งรู้ว่าขุมกำลังทีมชุดนี้มีปัญหา กำลังอยู่ในช่วงผลัดใบ จำต้องหาแข้งชั้นดีมาทดแทนเตรียมการณ์เอาไว้ กลับเพิกเฉยเหมือนทองไม่รู้ร้อน ก่อนตลาดปิดทำการ ได้แค่เจียดงบเล็กๆไปยืม อาร์ตู เมโล่ กองกลางส่วนเกินของยูเวนตุสมา ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เอามารักษาอาการเจ็บอีกต่างหาก
แล้วส่วนต่างกับที่ซื้อมา-ขายไป มันเล็กน้อยมากติดลบแค่ราว 10 กว่าล้านปอนด์เท่านั้นเอง บรรดาบิ๊กซิกซ์ด้วยกันต่างจ่ายกันโครมคราม เพราะรู้ดีว่าหากไม่ลงทุนเลย อย่าหวังจะประสบความสำเร็จ
เจอร์เก้น คล็อปป์ รอตลาดซื้อขายรอบถัดไป อาจสายไป
เจอร์เก้น คล็อปป์ เองคงหงุดหงิดไม่น้อยไปกว่าใคร เหมือนอยู่ตรงกลางเขาควาย คอยรับแรงปะทะจากแฟนบอลไปสู่เจ้าของทีม ซึ่งนับวันความสัมพันธ์ดูแย่ลงเรื่อยๆ
ในขณะเดียวกันเขายอมรับว่า มันผิดพลาดจริงๆที่ไม่เติมนักเตะให้พร้อมในตอนที่ยังเหลือเวลา แล้วก็ใช่ว่าสโมสรไม่มีเงิน เพียงแต่เลือกยึดมั่นในนโยบายการจ่ายแบบสมเหตุสมผล ทั้งที่ความจริงไม่ได้สมเหตุสมผลอะไรเลย
ถ้าจะรออีกทีก็ต้องตลาดมกราคม เมื่อเวลานั้นมาถึง มันอาจสายเกินไปแล้วสำหรับลุ้นความสำเร็จ ใช้เงินแต่แรกก็สิ้นเรื่อง
แฟนบอลทางโซเชี่ยลก็เลยลุกฮือขึ้นมารวมตัวกันขับไล่ทางออนไลน์ ไม่ถึงขั้นออกมาแอ็กชั่นข้างนอก เอาแค่เบื้องต้นก่อน
ไม่มีการยืนยันชัดเจนหรอกว่า สาเหตุทำให้ FSG แขวนป้ายขายสโมสรมาจากอะไรกันแน่ ได้แต่คาดเดากันไปต่างๆนานา ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
บ้างก็เชื่อว่าอยากจะถอนทุนคืนบ้างแล้ว หลังจากเหนื่อยกันมายาวนาน 12 ปีเต็ม ช่วยกันก่อร่างสร้างตัวจนมูลค่าลิเวอร์พูลพุ่งสูงกว่าเดิมเกิน 10 เท่าด้วยซ้ำ ไม่ขายตอนนี้จะไปขายตอนไหนกัน เพราะเป้าหมายของการเข้าเทคโอเวอร์ ไม่เกี่ยวกับแพสชั่นความหลงใหลอะไรเลย แต่มาจากธุรกิจล้วนๆ
บางกลุ่มคิดว่าแรงกดดันจากแฟนบอล ก็มีส่วนในการตัดสินใจด้วยเหมือนกัน เพราะดูแล้วคงต้องเจอกระแสต่อต้านไปอีกนาน สู้ตัดสินใจถอยออกมานั่งนับเงินดีกว่า ไม่ต้องไปทุกข์ร้อนจมกับความเครียด ที่ยังไงก็เลี่ยงไม่พ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง ถ้ากล้าจ่ายมันก็จบง่าย – เจอร์เก็น คล็อปป์
ทิศทางของ หงส์แดง จะเป็นอย่างไร
เป๊ป ลินเดอร์ส ผู้ช่วยของ คล็อปป์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังผลักดันลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จน่าพอใจในรอบหลายปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าไม่ค่อยรู้เรื่องนี้เท่าไรนัก ไม่อาจคาดเดาอนาคตได้เลย
มั่นใจแค่ว่าสิ่งเหล่านี้ ผ่านการทบทวนไตร่ตรองจากเจ้าของทีมอย่างดีแล้ว ก่อนตัดสินใจลงไป คงไม่มีอะไรน่ากังวลอย่างที่หวั่นกันหรอก
แต่เมื่อดูข้อมูลจากลิเวอร์พูล เอคโค่สื่อท้องถิ่น ซึ่งเกาะติดอย่าใกล้ชิด ระบุไว้ว่าการพังทลายของโปรเจคต์ใหญ่อย่างซูเปอร์ลีก สร้างความผิดหวังให้ FSG อย่างมาก เพราะหากถูกทำคลอดสำเร็จ มันหมายถึงผลประโยชน์มหาศาลจะรออยู่
เมื่อพวกเขาวางแผนไว้แล้วว่าจะได้เงินจากส่วนนี้มาหมุนเวียน แต่ปรากฏว่ากลายเป็นหมันซะก่อน มันทำให้ต้องปรับกลยุทธหาแหล่งการเข้าถึงเงินใหม่ อาจเป็นที่มาของการเปิดใจรับฟังข้อเสนอนายทุนคนอื่นนั่นแหล่ะ
ทว่าไม่ได้หมายถึง FSG จะต้องขายในเร็ววันนี้หรอก ยังคงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ หากว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นหรือไม่แน่ก็แค่แบ่งหุ้นขายออกไปให้กับคนที่สนใจ โดยที่ตัวเองยังคงอำนาจในการบริหารต่อ
เพียงแต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ จอห์น เฮนรี่ และคณะ มันจะส่งผลด้านลบขนาดไหนบ้าง ความไม่มั่นใจจากภายในจะเยอะกว่าเดิม จนถึงขั้นลากยาวมายังฟอร์มในสนามหรือเปล่า ยังคงต้องรอคำตอบกันต่อไป
ที่จับตาก็คือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งเอาเข้าจริงคงพอรู้บ้างแหล่ะว่า ฝ่ายบริหารมีแผนอย่างไร
ถ้าเขายังโอเค ก็น่าจะยินดีอยู่ต่ออย่างที่เอเจ้นท์เคยให้สัมภาษณ์ แต่ถ้าไม่แฮปปี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะได้เห็นเหตุการณ์ทางใครทางมัน