ทันทีที่เรคคอร์ดสื่อกีฬาทรงอิทธิพลมากสำนักหนึ่งของ ทีมชาติโปรตุเกส ออกมาเปิดเผยว่า คริสเตียโน่ โรนัลโดcr7 เกือบเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าออกจากแคมป์ทีมชาติ ดราม่าก็บังเกิดทันที
เล่าตามเนื้อเรื่องก่อน เรคคอร์ดอ้างว่าได้ข้อมูลวงใน ก่อนเกมโปรตุเกสตัดสวิตเซอร์แลนด์ไม่กี่วัน เฟร์นานโด ซานโต๊ส กุนซือได้วาง 11 ผู้เล่นตัวจริงไว้ล่วงหน้า
ปรากฏว่าไร้ชื่อกัปตันออกสตาร์ บรรยากาศอันมาคุอึมครึมก็แผ่ซ่านขึ้นมาเลย เพราะหากไม่บาดเจ็บ ติดโทษแบนหรือติดขัดเรื่องสำคัญ ยังไงก็ต้องประทับตราจองยาว ชนิดที่เปิดราคานอนมาได้เลย
ก่อนหน้านี้ 31 นัดในทัวร์นาเม้นต์เมเจอร์รอบสุดท้ายของโปรตุเกส อันหมายถึงยูโรกับฟุตบอลโลก มีชื่อของ โรนัลโด้ เป็นตัวจริงมาตลอดเลย
พอเห็นว่าตัวเองไม่ได้ลงตัวจริง โรนัลโด เลยไปขอเคลียร์กับ ซานโต๊ส ก่อนแจ้งว่า จะเก็บเสื้อผ้าออกจากแคมป์ทันที ทำอย่างนี้ได้อย่างไรกัน
แต่แล้วเมื่อทำการพูดคุย ปรับความเข้าใจกันใหม่ หากหนีหายไปดื้อๆอย่างไร้ร่องรอย สื่อจะต้องตามขุดแน่ๆ ว่าตกลงแล้ว โรนัลโด ไปไหนกัน จากนั้นรับรองว่าดราม่ามาเต็มคาราเบล
อีกทั้งอาจกระทบอย่างหนักต่อโปรตุเกส ก่อนลงเล่นเกมสำคัญในรอบควอเตอร์ไฟนั่ลกับโมร็อกโกอีกต่างหาก บรรยากาศในทีมมันตึงเครียดเช่นนี้ สภาพจิตใจนักเตะย่อมมีปัญหาตามไปด้วย
เรคคอร์ดสาธยายไปอีกว่า สุดท้ายกัปตันกลับลำตัดสินใจอยู่ต่อ สถานการณ์เลยผ่อนคลายมากขึ้น
กระแสข่าว คริสเตียโน่ โรนัลโดcr7 เรื่องนี้ทำภาพลักษณ์แย่อีก
พอข่าวนี้แพร่กระจายออกไป สื่ออังกฤษรวมทั้งของประเทศอื่นๆ ก็เอาไปต่อยอดขยายความ นั่นทำให้ภาพลักษณ์ของ โรนัลโด้ แย่ลงเข้าไปอีก
ว่ากันแบบแฟร์ๆ เราไม่อาจล่วงรู้เลยว่า หลังฉากเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่อาจบอกได้ข่าวนี้จริงหรือเฟค
แต่เมื่อมันออกสู่สาธารณะเรียบร้อย หลายคนย่อมคล้อยตาม หากปะติดปะต่อจากเรื่องราวที่ผ่านมา เห็นกันอยู่แล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ร้อนถึงสหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส ต้องรีบออกมาแถลงการณ์แก้ข่าวทันที บอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง ภายในทีมทุกอย่างปกติ ปราศจากปัญหา แตกต่างจากพวกสื่อประโคมอย่างมาก
โปรตุเกสยังเป็นทีมที่มีเสถียรภาพและ โรนัลโด ก็มีความเป็นมืออาชีพเพียงพอ พร้อมทำตามคำสั่งของกุนซือ ซึ่งมีอำจานสูงสุดในการตัดสินใจเลือก
จากนั้น โรนัลโด้ ก็โพสต์ผ่านแอคเคาท์โซเชี่ยลของตน ยืนยันที่นี่มีความเป็นทีมแท้จริง ไม่ใช่แตกแยกอย่างที่พวกสื่อ ซึ่งมีอำนาจภายนอก พยายามจะสร้างกระแสขึ้นมาเลย
มาถึงตรงนี้ปฏิกิริยาของสหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกสและ โรนัลโด้ มันทำให้เกิดน้ำหนักน่าเชื่อถือพอสมควรเลย
แต่ก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่า นี่เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ไม่อย่างนั้นลุกลามไปไกล ปัญหาย่อมหนักข้อขึ้น ทีนี้ล่ะแก้ไขลำบากแล้ว
ในขณะเดียวกันถ้าอยู่เฉย คนส่วนใหญ่ก็ตีความว่าเป็นเรื่องจริง การออกมาตอบโต้เลยทันควัน ย่อมเป็นเรื่องดี พลิกสถานการณ์กลับมากุมความได้เปรียบเอาไว้บ้าง
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมง มาร์กาสื่อของสเปนระบุว่า โรนัลโด้ ไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมชุดเป็นตัวสำรองล่าสุด แต่เลือกจะเข้ายิมกับกลุ่มตัวจริงเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
ถ้าเป็นอย่างว่า นั่นหมายถึงการขัดคำสั่งกุนซือ เขาควรซ้อมคอร์สปกติ เพราะเกมล่าสุดเล่นไปราว 20 นาทีเท่านั้นเอง ไม่จำเป็นต้องเข้ายิมเหมือนพวกที่ลงเล่นตั้งแต่นาทีแรก
พวกที่เชื่อตามสื่อนำเสนอ ก็ผูกโยงกันให้กลายเป็นเรื่องราวตามจินตนาการไว้ก่อน พร้อมทั้งชี้ว่า โรนัลโด้ เป็นตัวสร้างปัญหาของจริง
ว่ากันตามเนื้อผ้า ดูเหมือนว่าบรรดาสื่อโปรตุเกสและแฟนบอลบาวส่วน ไม่ได้สนับสนุน โรนัลโด้ อีกต่อไปแล้ว ยืนฝั่งตรงข้ามเลย อาจเพราะมองว่าเป็นตัวถ่วงทีม พักหลังดร็อปลงไปมาก แต่ก็ยังดันทุรังอยากจะลง
บทความที่เกี่ยวข้อง เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้cr7 กำลังวิ่งหนีเงาตัวเอง
โด้หวังโชว์ฟอร์มเรียกสัญญาจากทีมใหญ่ๆ
3 เกมแรกในรอบแบ่งกลุ่ม ชัดเจนแล้วว่าผลงานด้อยคุณภาพไปจากเดิม แต่ก็ยังก้มหน้าก้มตาทำเพื่อตัวเองมากกว่า ก็อย่างที่ เพียร์ส มอร์แกน เพื่อนสนิทบอกเอาไว้ หวังจะใช้เวทีฟุตบอลโลก เป็นการดึงดูดให้สโมสรชั้นนำในยุโรปเข้าหา หลังเป็นฟรีเอเจ้นท์เรียบร้อย
ภาพของ โรนัลโด้ กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวขึ้นมาเลย ยิ่งปฏิกิริยาชักสีหน้า ยิ้มเจื่อนๆ ไม่ค่อยยินดียินร้ายจากผลนัดล่าสุดที่ถล่มสวิตเซอร์แลนด์ 6-1 พร้อมเข้าควอเตอร์ไฟนั่ล มันยิ่งให้น้ำหนักมากกว่าเก่า
อีกประเด็นก็คือ ความร้อนแรงของ กอนซาโล่ รามอส แข้งรุ่นหลานวัย 21 ปี ซึ่งระเบิดแฮตทริกแรกใน ฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ยังกลบรัศมีของ โรนัลโด้ ซึ่งอยู่ในช่วงขาลงซะมิดเลย
ไม่มีเหตุผลที่เกมชนโมร็อกโกจะต้องเข็น โรนัลโด้ ลงเล่นเหมือนอย่างที่เคยทำ พอจับนั่งปุ๊บ ทุกคนเป็นพยานได้ว่า ผลงานของทีมดีกว่าเดิมอีก
แต่ก็นั่นแหล่ะหาก โรนัลโด้ ยังต้องอยู่ในสถานะสำรองอดทน เหมือนอย่างเกมล่าสุด ความอึมครึมมันย่อมเกิดอย่างเลี่ยงไม่ได้หรอก
ส่วนพวกสื่อก็ต้องจับตาทุกอากัปกิริยาของ โรนัลโด้ แบบไม่กระพริบแน่ๆ ทุกความเคลื่อนไหว สามารถนำไปจับมาสร้างประเด็นได้อย่างสบาย
เรื่องนี้ต้องตามดูกันต่อไป หากโปรตุเกสยังไม่ตกรอบ ก็คงไม่จบง่ายๆ หรือถ้าตกรอบเร็วกว่าที่คาด ป้ายหน้าของ โรนัลโด้ จะเป็นสโมสรไหน ก็ต้องถูกเกาะติดอย่างเหนียวแน่น
เมื่อคุณเป็นซูเปอร์สตาร์ ชื่อเสียงย่อมเสมือนอาหารอันโอชะ ใครก็อยากลิ้มรสสัมผัสทั้งสิ้นแหล่ะ